svasdssvasds

หอยเชอรี่สีทอง จากศัตรูคู่นา สู่แหล่งรายได้งาม โปรตีนสูงปรี๊ด เลี้ยงไม่ยาก

หอยเชอรี่สีทอง จากศัตรูคู่นา สู่แหล่งรายได้งาม โปรตีนสูงปรี๊ด เลี้ยงไม่ยาก

SPRiNG ชวนอ่านกรณีศึกษา เมื่อคนไทยกิน "หอยเชอรี่สีทอง" สัตว์เอเลี่ยนสปีชีส์ จนกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ เนื่องจากมีรสชาติอร่อย แถมขายได้เงินดี

ท่ามกลางฝุ่นตลบเรื่อง “ปลาหมอคางดำ” ที่ ณ บัดนี้ก็ยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าบทสรุปจะไปสิ้นสุดลงที่ไหน แต่ปลาหมอคางดำ วายร้ายแห่งน่านน้ำไทยก็เดินหน้าทยอยระบาดไปเรื่อย ๆ ทั่วประเทศ แม้ภาครัฐจะมีมาตรการรับมือกับพวกมันออกมาแล้วก็ตาม

ที่ผ่านมาประเทศไทยมีเอเลี่ยนสปีชีส์จำนวนไม่น้อยที่ถูกนำเข้ามา และแพร่ระบาดสร้างความเดือดร้อนให้กับสัตว์น้ำท้องถิ่น แต่กลับกลายเป็นว่าถูก “คนไทย” จับเปิบเป็นเมนูอาหารจานเด็ด และกลายพันธุ์เป็นสัตว์เศรษฐกิจไปเลยดื้อ ๆ

หนึ่งในนั้นคือ “หอยเชอรี่สีทอง” มลังเมลือง ที่ปัจจุบันมักถูกนิยมบริโภคเป็นอาหารจานเด็ด มีโปรตีนสูง และกลายพันธุ์จากเอเลี่ยนสปีชีส์ เป็นสัตว์เศรษฐกิจไปแล้วเรียบร้อย สปริงนิวส์ชวนติดตามเรื่องราวของ “ศัตรูคู่นา” รายนี้กัน

หอยเชอรี่สีทอง Credit เพจเรื่องเล่าข่าวเกษตร

หอยเชอรี่สี่ทอง มีถิ่นกำเนิดจากที่ใด ทำไมคนไทยนิยมเลี้ยง?

“หอยเชอรี่” กับ “หอยเชอรี่สีทอง” มีลักษณะเหมือนกันทุกประการ แตกต่างกันแค่สีเท่านั้น หอยเชอรี่สี่ทองสีจะออกน้ำตาลไล่ไปถึงเหลือง แตกต่างจากหอยเชอรี่ปกติที่จะมีสีดำทะมึน หรือสีโทนทึบ

หอยเชอรี่นั้นมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ แต่ถูกนำเข้าไทยเพื่อเพาะเลี้ยงขายเป็นอาหาร หรือเอาไว้กำจัดจะไคร่น้ำในตู้ปลา โดยช่วงปี 2530 ถูกระบุว่าคนไทยนิยมเลี้ยงหอยเชอรี่กันทั่วประเทศ และมีความพยายามในการเพาะพันธ์ขายเพื่อเป็นสัตว์เศรษฐกิจ

หอยเชอรี่สีทอง Credit เพจเรื่องเล่าข่าวเกษตร

ทว่า ไม่ได้รับความนิยม จึงมีการนำหอยเชอรี่ปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ หลังจากนั้นคือหายนะ เพราะหอยเชอรี่สามารถแพร่พันธ์ได้อย่างรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นานก็พบว่ามีการระบาดทั่วประเทศ

หอยเชอรี่สร้างปัญหาให้กับเกษตรกรอย่างหนัก เพราะพวกมันสามารถกัดกินต้นกล้าข้าวในนาได้เป็นไร่ กำจัดเท่าไรก็ไม่หมดสิ้น  ทำให้ในแต่ละปี ชาวนาต้องเสียเวลา ทุนทรัพย์เพื่อกำจัดหอยเชอรี่ออกจากพื้นที่ทำมาหากินของตัวเอง

เปลี่ยน “หอยเชอรี่สีทอง” เป็นเมนูเปิบ เนื้อหวานฉ่ำ กินกับอะไรก็อร่อย

เมื่อต่อต้านไม่ได้ จงเข้าร่วม หลังจากประสบปัญหาหอยเชอรี่ท่วมนา เกษตรกรมองยังไงก็นึกไม่ออกว่าจะจัดการหอยเชอรี่ยังไง มันงอกใหม่ขึ้นทุกวัน จึงเปลี่ยนมาทำสิ่งที่คนไทยทำได้ดีที่สุดนั่นคือการกิน ว่ากันว่าหอยเชอรี่สีทองมีเนื้อนุ่มหนึบหนับ กรอบ และรสชาติดีกว่าหอยเชอรี่ทั่วไป แถมมีโปรตีนสูงถึง 53%

หอยเชอรี่สีทอง Credit เพจเรื่องเล่าข่าวเกษตร

หอยเชอรี่สีทองมักถูกนำไปบริโภคเป็นอาหารหลากหลายเมนู อาทิ ส้มตำ ลาบ ลวกจิ้ม ก้อย หรือแกงคั่วก็อร่อยน้ำตาไหลไม่แพ้กัน หลังจากนั้นเป็นต้นมา หอยเชอรี่ก็กลายเป็นหนึ่งในเนื้อสัตว์ที่คนจะนึกถึงอยู่ตลอด ไม่ต่างจากหมูหรือไก่

เปลี่ยน “ศัตรู” เป็นแหล่งทำเงินเข้ากระเป๋า

หลังจากที่สาธารณชนทราบแล้วว่าหอยเชอรี่สีทองมีรสชาติดี ณ จุดนี้ หอยเชอรี่สี่ทองจึงกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจไปโดยปริยาย เริ่มมีการเพาะเลี้ยงเพื่อขายกันมากขึ้น ฟาร์มหอยเชอรี่สีทองผุดเป็นดอกเห็ด

ไข่หอยเชอรี่ Credit เพจเรื่องเล่าข่าวเกษตร

ไข่หอยเชอรี่สี่ทองจะถูกแบ่งขายเป็นขีดขีดละ 300 – 400 บาท หรือหากต้องการซื้อเป็นตัว ราคาก็จะแตกต่างกันออกไปตามขนาด หรือใครต้องการซื้อพ่อพันธ์แม่พันธ์ก็มีขายเช่นเดียวกัน

เหลือเชื่อว่าจากสัตว์เอเลี่ยนสปีชีส์ กลับกลายเป็นแหล่งทำเงินให้กับเกษตรกรไปเสียดื้อ ๆ แถมจับมาปรุงเป็นเมนูเลิศรสก็อร่อยแซ่บคัก ๆ ทั้งนี้ “หอยเชอรี่สีทอง” ถือเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาการจับกินเอเลี่ยนสปีชีส์ของคนไทย

 

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related