บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด มุ่งหน้าผลักดันการใช้เทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาด เพื่อเป็นพื้นฐานในการสร้าง Smart City ของประเทศไทย
ทำไมถึงสำคัญที่จะก้าวไปสู่ Smart City
คุณโอม ขาวสะอาด Head of Venture Capital บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ได้กล่าวระหว่างร่วมงาน POSTTODAY Thailand Smart City 2025 ระบุว่า หากพูดถึงประเด็นวิกฤติโลกร้อน หรือ Climate Change เราจะพบว่าทั่วโลกก็ต้องมีต้นทุนที่จะนำมาใช้เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประมาณ 1.5 แสนล้านดอลลาร์ ในแต่ละปี หรือราวๆ 16 ล้านดอลลาร์ ในทุกๆชั่วโมง ซึ่งมักจะถูกนำไปจัดการกับภัยพิบัติธรรมชาติต่างๆ ที่เกิดขึ้นเนื่องมาจากโลกร้อน
เมืองไทยอยู่ในรายชื่อ 10 อันดับประเทศกลุ่มเสี่ยงที่จะรับผลกระทบหนักจากสภาพอากาศสุดขั้ว เราจึงควรปรับปรุงตัวแล้วเตรียมพร้อม จากเหตุการณ์น้ำท่วมเชียงราย ไฟป่า หรือฝุ่น PM2.5 ในเมืองกรุง คือสิ่งที่แสดงให้เห็นแล้วว่าเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
การมีน้ำที่สะอาด อากาศที่สะอาด คือการสร้างปัจจัยพื้นฐานให้กับสังคม ไม่ว่าจะเป็น Smart Urbanization หรือ Smart City เราต้องส่งต่อปัจจัยพื้นฐานที่สะอาดให้กับประชาชนได้
หนึ่งในการดำเนินงานของอินโน พาวเวอร์ ที่จะนำไปสู่การสร้าง Smart City คือออกแบบแนวทางการแก้ไขปัญหาโลกร้อน ด้วยการ Decarbonization หรือ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งทางบริษัทมีกระบวนการเป็นขั้นตอนคล้ายกับการตรวจสุขภาพ เริ่มตั้งแต่การตรวจสอบคาร์บอนฟุตปริ๊น (Aware) หาทางปรับปรุง (Reduce Symtomp) แก้ไขที่ต้นเหตุ (Fix Root Cause) และวางแผนดูแลระยะยาว (Pro Active)
โดยเทคโนโลยี จะเข้ามามีส่วนทำให้เกิด Smart City ที่ยั่งยืน ก็คือเทคโนโลยีด้านพลังงาน ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 มิติ คือ Energy Conservation, Energy Optimization, Energy Management และ Energy Storage ซึ่งมีความเชื่อมโยงกันหมด และทางอินโน พาวเวอร์ ก็พยายามจะทำให้ได้ในทุกมิติ
ปัจจุบันนอกจากจะมีการลงทุนกับ AI สำหรับ Software Energy Management แล้ว ทางอินโน พาวเวอร์ ยังมีโครงการ Smart Campus ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาไฟถนน สถานีชาร์จรถอีวี ฯลฯ ซึ่งเรามีเป้าหมายว่าโครงการนี้จะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้ราว 1 ล้านตัน ต่อปี
ตั้งแต่ปี 2023 - 2024 ทางอินโน พาวเวอร์ ได้ให้บริการด้านการบริการจัดการพลังงาน (Energy Solution) และด้านอื่นๆ ในพาร์ทเนอร์มากกว่า 100 ราย จนสามารถพูดได้ว่าทางบริษัทมีส่วนช่วยสนับสนุนการลดการปล่อยคาร์บอนไปแล้วกว่า 2 ล้านตัน