รู้จัก ! อินโนพาวเวอร์ กับ 3 เรือธง ธุรกิจใหม่นวัตกรรมพลังงานสะอาดสู่ความยั่งยืน

เป็นที่รู้จักกันดีว่า กฟผ. และบริษัทในกลุ่มกฟผ. คือผู้ผลิต และจำหน่ายพลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ของประเทศไทย และยังคงเดินหน้าสร้างธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องอย่างไม่มีวันหลับใหล เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ และตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนในการใช้ไฟฟ้า รวมถึงนวัตกรรมใหม่ๆ ล่าสุดกลุ่มบริษัท กฟผ. ได้ผลักดันอินโนพาวเวอร์ขับเคลื่อน Roadmap Energy

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• กฟผ.นำทัพ Grid Modernization ผลักดันไทยสู่พลังงานสะอาด

• กฟผ.ชวนคนไทยรักษ์โลก ใช้ชีวิตติด ‘Neutral’ ลดการปล่อยคาร์บอน

• กฟผ. เดินหน้าผลิตไฟฟ้าสีเขียว เร่งขยายโซลาร์เซลล์ลอยน้ำไฮบริดในเขื่อน

วันนี้จะพามาทำความรู้จักกับบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด (INNOPOWER Company Limited) ว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และดำเนินธุรกิจหลักๆอะไรบ้าง โดยบริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัดเกิดจากความร่วมมือของ 3 พันธมิตรด้านพลังงานไฟฟ้า ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัทราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (RATCH) และบริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) (EGCO) มีวัตถุประสงค์เพื่อเปลี่ยนผ่านไทยสู่ยุคนวัตกรรมพลังงาน

ล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้อินโนพาวเวอร์ ได้รูดม่านเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว โดยมีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน มาเป็นประธานงานฉลองการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่องาน “INNOPOWER : THE IGNITION BEGINS โดยปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ไทยได้ประกาศในเวทีการประชุมภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติ ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) จะก้าวสู่สังคมคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี ค.ศ. 2065 ดังนั้นจึงจำเป็นต้องอาศัยองค์กรที่มีความยืดหยุ่น ปรับตัวได้ไว ขับเคลื่อนได้เร็ว และพร้อมรับความท้าทาย เป็นกำลังหลักในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในภาคธุรกิจพลังงาน ด้วยเหตุนี้ บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด จึงถือกำเนิดขึ้นมาด้วยเชื่อว่าจะเป็นเรือธงสำคัญในการสร้างนวัตกรรมพลังงานและเทคโนโลยีแห่งอนาคต

จะพามาคุยกับหัวเรือใหญ่ อย่างนายอธิป ตันติวรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ที่เผยว่า อินโนพาวเวอร์จะเข้ามาเปลี่ยนผ่านไทยสู่ยุคนวัตกรรมพลังงาน ผ่าน 3 เรือธง ทั้งกองทุน Energy Ignition Ventures - EV Charger - Renewable Energy Certificate (REC) เพื่อผลักดันธุรกิจให้โตต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ยังคงจะเดินหน้าจับมือพันธมิตรทั้งไทยและต่างชาติ สร้างระบบนิเวศด้านพลังงานสะอาดให้สมบูรณ์ โดยอินโนพาวเวอร์มีเป้าหมายสำคัญในการเร่งให้การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ภารกิจหลักจึงเป็นการผลักดันและจุดประกายนวัตกรรมพลังงานและเทคโนโลยีให้กับประเทศไทย

โดยในปี2566 นี้ อินโนพาวเวอร์ได้เปิดตัว 3 หน่วยธุรกิจ ซึ่งจะมาเป็นกำลังหลักในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจของอินโนพาวเวอร์ ตลอดจนขับเคลื่อนด้านนวัตกรรมพลังงานของประเทศไทย คือ

1.หน่วยงาน Venture Capital

มีภารกิจในการลงทุนในกองทุน และสตาร์ทอัพด้านนวัตกรรมพลังงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา อินโนพาวเวอร์ได้จับมือกับ TRIREC ซึ่งเป็นธุรกิจร่วมลงทุน (Venture Capital) จากประเทศสิงคโปร์ ร่วมจัดตั้งกองทุน Energy Ignition Ventures โดยมีแผนการลงทุนในสตาร์ทอัพกลุ่ม Decarbonization Technology (อย่างเช่น Mobility, Carbon Economy, Energy และ Agriculture) ที่มีการเติบโตมาแล้วระยะหนึ่ง (Growth Stage) และมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง (Deep Technology) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยุโรป อเมริกาเหนือ และอิสราเอล สำหรับกองทุนดังกล่าว อินโนพาวเวอร์วางเป้าหมายในการระดมทุนไว้เบื้องต้นที่ 80-100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

นอกจากนี้ อินโนพาวเวอร์ ได้ร่วมลงทุนกับ Turntide Technologies สตาร์ทอัพในสหรัฐอเมริกา ผู้พัฒนาเทคโนโลยีสมาร์ทมอเตอร์ประหยัดพลังงานซึ่งถูกออกแบบมาให้ใช้แร่ทองแดงน้อยลงในกระบวนการผลิตส่งผลให้มอเตอร์ดังกล่าวราคาไม่สูงแต่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ30 โดย อินโนพาวเวอร์  ได้รับสิทธิในการนำเทคโนโลยีสมาร์ทมอเตอร์ดังกล่าวมาใช้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นับว่าเป็นก้าวสำคัญในการต่อยอดธุรกิจพลังงานและผลักดันนวัตกรรมพลังงานในอนาคตของประเทศไทย

2.หน่วยงาน Venture Builder

มีภารกิจในการสร้างและทดลองนวัตกรรมทางพลังงานในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และมีจุดมุ่งหมายในการเร่งการเปลี่ยนผ่านให้ภาคขนส่งของไทยหันมาใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นด้วยการแสวงหาเทคโนโลยีและโมเดลธุรกิจนวัตกรรมมาเติมเต็มให้กับระบบนิเวศของยานยนต์ไฟฟ้า และตอบโจทย์ผู้ใช้รถยนตร์ไฟฟ้าให้มากที่สุด นำเทคโนโลยีเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ของ Wallbox ซึ่งมีคุณสมบัติในการอัดประจุพลังงานที่มีประสิทธิภาพ และระบบบริหารจัดการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Network Operator) จากพันธมิตรที่เป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการสถานีอัดประจุ มาบูรณาการสร้างเป็นโมเดลธุรกิจสถานีอัดประจุไฟฟ้าต้นแบบที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ลงทุนและผู้ใช้งาน ทั้งนี้อินโนพาวเวอร์มีแผนจะเปิดตัวโมเดลธุรกิจสถานีชาร์จไฟฟ้าต้นแบบที่เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนร่วมลงทุนและเป็นเจ้าของ  โดยเชื่อว่าโมเดลธุรกิจนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการขยายเครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Station) ให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศไทย เพื่อให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยสามารถเข้าถึง EV Station ได้สะดวกสบายขึ้น

นอกจากนี้ อินโนพาวเวอร์ได้ร่วมมือกับ กฟผ. ผลักดันโครงการต้นแบบเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดยนำรถโดยสารที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า 100% มาใช้เป็นระบบขนส่งมวลชนภายในพื้นที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง  โดยคาดว่าจะสามารถเป็นต้นแบบธุรกิจบริการยานยนต์ไฟฟ้าและการขนส่งโดยระบบไฟฟ้า (EV Fleet) ที่อินโนพาวเวอร์สามารถให้บริการแก่องค์กรหรือภาคเอกชนที่ต้องการระบบขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

3.หน่วยงาน Strategic Partnership

 มีภารกิจสร้างความยั่งยืนให้กับองค์กรชั้นนำผ่านความร่วมมือทางธุรกิจเพื่อผลักดันนวัตกรรมความยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรมและสังคม โดยในช่วงเวลาที่ผ่านได้ให้บริการจัดหาและซื้อขายใบรับรองการผลิตพลังงานหมุนเวียน หรือ Renewable Energy Certificate (REC) ให้กับองค์กรชั้นนำที่ต้องการบรรลุเป้าหมายการใช้พลังงานสะอาด ตลอดจนให้บริการในการทำตลาดให้กับผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนในการดำเนินการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น   โดยนับตั้งแต่บริษัทฯ เริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2565 จวบจนปัจจุบัน บริษัทฯ ได้สนับสนุนการซื้อขายไฟฟ้าสะอาดไปแล้วมากกว่า 1.2 ล้าน REC  ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดการณ์ว่าธุรกิจ REC จะมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับเป้าหมายของภาครัฐในการผลักดันการใช้พลังงานสะอาด เพื่อนำไปสู่สังคมคาร์บอนเป็นศูนย์ (Net Zero Emission)

นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะเปิดตัวบริการแพลตฟอร์มรายงานก๊าซเรือนกระจก (GHG Reporting Platform) ซึ่งสามารถตรวจสอบสถานะการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กร ทำให้องค์กรสามารถแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างตรงจุด ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก และสามารถเลือกบริการอื่นๆ ของอินโนพาวเวอร์ในการช่วยบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกขององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา การจัดการพลังงานด้วยเทคโนโลยี หรือการเดินรถโดยสารด้วยระบบไฟฟ้า อันจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กรอย่างยั่งยืน