svasdssvasds

ทีพีไอ โพลีน เดินหน้าเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน มุ่งสู่ Smart City

ทีพีไอ โพลีน เดินหน้าเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน มุ่งสู่ Smart City

ขยะไม่ใช่สิ่งไร้ค่า.. ทีพีไอ โพลีน เชื่อมั่น Smart City สร้างได้ เดินหน้านำขยะทั่วประเทศมาเปลี่ยนเป็นพลังงานสะอาด ตั้งเป้าเลิกผลิตพลังงานจากถ่านหินภายในปี 2026

SHORT CUT

  • บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด มหาชน กำลังเดินหน้าพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานจากขยะ เพื่อตอบโจทย์การสร้าง Smart City ของไทยในอนาคต
  • เนื่องจากในแต่ละปีเรามีการสร้างขยะในปริมาณหลายล้านตัน หากไม่มีการกำจัดอย่างถูกวิธีก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติขยะล้นเมือง
  • นอกจากนี้ทีพีไอ โพลีน ยังตั้งเป้าหยุดการผลิตพลังงานถ่านหิน เพื่อลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ ภายในปี 2026 ด้วย

ขยะไม่ใช่สิ่งไร้ค่า.. ทีพีไอ โพลีน เชื่อมั่น Smart City สร้างได้ เดินหน้านำขยะทั่วประเทศมาเปลี่ยนเป็นพลังงานสะอาด ตั้งเป้าเลิกผลิตพลังงานจากถ่านหินภายในปี 2026

"ประเทศไทยมีศักยภาพที่จะสร้าง Smart City แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่ได้มีการดำเนินการอย่างเต็มที่ก็ตาม"

นี่คือความเชื่อมั่นของคุณภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด มหาชน ที่กล่าวในงาน POSTTODAY Thailand Smart City 2025 โดยระบุว่า ทางทีพีไอ โพลีน เองก็ต้องการเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรม 'Waste to Energy' หรืออุตสาหกรรม 'ขยะสู่พลังงาน' จึงพยายามสร้างบริษัทที่เป็น Net Zero สร้างระบบนิเวศแบบ Zero Waste และต้องเป็นบริษัทที่มีความยั่งยืน เพื่อตอบรับกับแนวคิด Smart City ของไทยในอนาคต

ทีพีไอ โพลีน เดินหน้าเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน มุ่งสู่ Smart City

Smart City (เมืองอัจฉริยะ) คืออะไร
Smart City ในความหมายของทีพีไอ โพลีน อ้างอิงจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) มีอยู่  มิติด้วยกัน คือ Smart Living, Smart People, Smart Governance, Smart Economy, Smart Mobility,  Smart Energy และที่สำคัญที่สุดคือ Smart Environment

โดยทีพีไอ โพลีน ในฐานะผู้ผลิตพลังงาน ไม่เพียงให้ความสำคัญกับ Smart Energy แต่ยังให้ความสำคัญกับ Smart Environment ควบคู่กันไปด้วย เพราะมองว่าทั้งสองมีความเกี่ยวโยงกันในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ

จากพลังงานถ่านหิน สู่พลังงานขยะ
สาเหตุที่ทีพีไอ โพลีน เลือกพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานจากขยะ เนื่องจากในแต่ละปีเรามีการสร้างขยะในปริมาณหลายล้านตัน  ก่อให้เกิดมลพิษคุกคามคุณภาพอากาศที่เราหายใจ และหากไม่มีการกำจัดอย่างถูกวิธีก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติขยะล้นเมือง ขณะที่ในปี 2020 ทางทีพีไอ โพลีน ได้มีการนำขยะไปใช้งานราวว 2.5 ล้านตัน คิดเป็นการช่วยลดการปล่อยคาร์บอนได้มากถึง 5.8 ล้านตัน

ทีพีไอ โพลีน เดินหน้าเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน มุ่งสู่ Smart City

การนำขยะจากบ่อขยะขนาดใหญ่ในหลายจังหวัดมาผลิตเป็นพลังงาน นอกจากจะลดการปล่อยคาร์บอน ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ยังนับเป็นการส่งคืนที่ดินว่างเปล่าที่เคยเป็นที่ฝังกลบขยะ ให้หน่วยงานราชการสามารถนำไปพัฒนาให้เกิดประโยชน์มากกว่าเดิม เช่น การสร้างโรงเรียน โรงพยาบาล หรือห้างสรรพสินค้าเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้

นอกจากนี้ ยังเสริมว่า หากประเทศไทยสามารถผลักดันให้ทุกคนคัดแยกขยะก่อนทิ้งได้ การนำขยะไปเปลี่ยนเป็นพลังงานจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปัญหาตอนนี้คือเรายังไม่มีการคัดแยกขยะ ทำให้การสร้างโรงไฟฟ้าขยะมีความยุ่งยากมากขึ้น ทั้งยังได้พลังงานจากขยะในปริมาณน้อยลงด้วย

และหากเราสามารถนำขยะเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ เลิกการฝังกลบขยะ เราจะได้ "Smart City" อย่างแท้จริง

การเติบโตด้านพลังงานสะอาดของทีพีไอ โพลีน

  • ปี 2009 ทางบริษัทได้เริ่มต้นผลิตพลังงานที่ 60 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นพลังงานความร้อนทิ้งทั้งหมด
  • ปี 2022 ผลิตได้ 440 เมกะวัตต์ เป็นพลังงานถ่านหิน 220 เมกะวัตต์ และ พลังงานขยะ 180 เมกะวัตต์
  • ปี 2024 ผลิตได้ 477 เมกะวัตต์ โดยลดพลังงานถ่านหินเหลือ 150 เมกะวัตต์ และ ส่วนพลังงานขยะเติบโตขึ้นมาเป็น 250 เมกะวัตต์ ทั้งยังเพิ่มพลังงานแสงอาทิตย์เข้ามาอีก 37 เมกะวัตต์ 

โดยเป้าหมายของทีพีไอ โพลีน อยู่ในปี 2026 ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มพลังงานขยะเป็น 450 เมกะวัตต์ และหยุดการผลิตพลังงานจากถ่านหินทั้งหมดภายในปีดังกล่าวเป็นต้นไป เป็น Coal Free Power Plant โดยสมบูรณ์

ทีพีไอ โพลีน เดินหน้าเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน มุ่งสู่ Smart City