SHORT CUT
“อ่างเก็บน้ำบาซิลิกา” ภูมิปัญญาตุรกี แก้ขาดแคลนน้ำ-น้ำท่วม สิ่งมหัศจรรย์ที่แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ก็ทำอะไรไม่ได้! รู้หรือไม่ ต่อเครื่องบินที่อิสตันบูลเกิน 6 ชั่วโมง ทัวร์ชมเมืองฟรี!
ใต้ถนนอันพลุกพล่านของอิสตันบูล ประเทศตุรกี ใครจะไปคิดว่า ลึกลงไปใต้ถนนที่เรายืนอยู่นั้น จะมีสิ่งมหัศจรรย์จากจักรวรรดิไบเซนไทน์ ภูมิปัญญานับพันปีที่ช่วยให้ชาวเมืองรอดพ้นจากภัยแล้งและน้ำท่วมครั้งใหญ่มานักต่อนัก
หากใครได้มีโอกาสไปเที่ยวตุรกี หรือ ทูร์เคีย (Türkiye) ห้ามพลาดเด็ดขาด! เราขอแนะนำให้ไปเยี่ยมชม “อ่างเก็บน้ำบาซิลิกา (Basilica Cistern)” หนึ่งในทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่สุดและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศตุรกี เป็นโบราณสถานที่หลงเหลือมาจากยุคไบเซนไทน์ และถ้าใครอยากไปเที่ยวที่นี่ฟรีล่ะก็ อ่านให้จบ สปริงนิวส์ในคอลัมน์ Keep The World มีโปรโมชั่นดี ๆ มานำเสนอ
ก่อนที่คุณจะตัดสินใจบินลัดฟ้าไปอิสตันบูลจริง ๆ หลังอ่านบทความนี้จบ ผู้เขียนขอเล่าเกร็ดความรู้ประวัติศาสตร์ที่ได้อ่านและฟังมา เมื่อครั้งได้มีโอกาสไปเยือนอิสตันบูลให้ได้ทราบกันสักนิด
อ่างเก็บน้ำบาซิลิกา “Bazilika Sarnıcı” (Basilica Cistern) หรือที่ประชาชนในพื้นที่บางส่วนตั้งชื่อเล่นให้กับที่แห่งนี้ว่า “เยเรบาตัน ซารายิ (พระราชวังจม)” เนื่องจากอ่างเก็บน้ำใต้ดินมีเสาหินอ่อนจำนวนมาก และมีลักษณ์โผล่ขึ้นมาจากน้ำ แต่เดิมเคยเป็นวิหารมาก่อน แต่ก็ได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นอ่างเก็บน้ำจนมาถึงปัจจุบัน ข้อความทางประวัติศาสตร์บางชิ้นอ้างว่า ที่แห่งนี้ใช้ทาสกว่า 7,000 ในการสร้าง
อ่างเก็บน้ำบาซิลิกา เป็นอ่างเก็บน้ำใต้ดินขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างขึ้นโดยจักพรรดิโรมันตะวันออก จัสติเนียนที่ 1 (ค.ศ. 527-565) อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน ถือเป็นถังเก็บน้ำที่ใหญ่ที่สุดในอิสตันบูล ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 10,000 ตารางเมตร และสามารถกักเก็บน้ำได้มากถึง 80,000 ลูกบาศก์เมตร ตั้งอยู่ใกล้กับฮาเกียโซเฟีย (Hagia Sophia) ซึ่งเป็นทั้งมัสยิดและโบสถ์คริสต์ กล่าวคือเป็นศาสนสถานที่ใหญ่ที่สุดในอิสตันบูล
หลังจากการพิชิตอิสตันบูลโดยจักรวรรดิออตโตมันในปีค.ศ. 1453 อ่างเก็บน้ำได้รับการบูรณะครั้งแรกในสมัยของสุลต่านอาเหม็ดที่ 3 และได้มีการบูรณะครั้งที่ 2 ในสมัยของสุลต่านอับดุลฮามิดที่ 2 ซึ่งระหว่างการปกครองของออตโตมัน อ่างเก็บน้ำก็ถูกบูรณะเรื่อย ๆ แต่ไม่ค่อยได้ถูกใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพมากนัก บางแหล่งบอกว่ามันถูกลืมเลือนหรือยกเลิกใช้งานไปเลยในช่วงการปกครองของออตโตมัน
จนกระทั่ง มันถูกค้นพบอีกครั้งในช่วงปีค.ศ. 1544-1565 โดยนักธรรมชาติวิทยาและภูมิประเทศชาวฝรั่งเศส เปตรัส กิลลิอุส (Petrus Gyllius) เขาได้ค้นพบว่า ปลาสด ๆ มากมายที่ชาวบ้านนำมาขายตามถนนในขณะนั้น มาจากอ่างเก็บน้ำบาซิลิกา จึงได้รู้ว่าด้านใต้ถนนมีอ่างเก็บน้ำซ่อนอยู่ จึงได้มีการสำรวจเรื่อยมา และก็ได้พบเจอโบราณวัตถุที่เล่าเรื่องราวของอดีตได้มากมาย
เดิมที มันถูกสร้างเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้สำหรับพระราชวังและอาคารทั่วกรุงคอนสแตนติโนเปิล โดยน้ำจะมาจากท่อระบายน้ำจากภูเขาทางเหนือที่อยู่ห่างออกไป 19 กิโลเมตร นอกจากนี้มันยังช่วยปกป้องชาวไบเซนไทน์จากภัยแล้งในฤดูร้อนด้วย เพราะเมื่อเกิดน้ำท่วม น้ำด้านบนจะระบายลงท่อมายังอุโมงค์แห่งนี้ และมันก็จะถูกใช้งานอีกครั้งเมื่อหน้าแล้งมาถึง
กระทรวงเกษตรและป่าไม้ของตุรกีเผยว่า ระบบกักเก็บน้ำที่นำกลับมาใช้ใหม่ ก็ได้มีการบูรณะเพื่อให้เป็นหนึ่งในทางเลือกแก้ปัญหาน้ำท่วมและเก็บน้ำไว้ใช้ยามหน้าแล้ง เพราะนี่เองก็เป็นวิธีการที่เมื่อหลายศตวรรษก่อนใช้กัน เพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นบ่อย ซึ่งปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศก็ยังทำให้ตุรกีเผชิญหน้ากับน้ำท่วมบ่อยครั้งเช่นเดิม
นอกจากนี้ ด้วยวิศวกรรมของบรรพบุรุษร่วมกับการดูแลรักษาอย่างดีในทุกยุคทุกสมัย อ่างเก็บน้ำแห่งนี้มีความทนทานและแข็งแกร่งมาก เพราะนอกจากตุรกีจะเจอกับน้ำท่วมบ่อยแล้ว ยังเผชิญหน้ากับแผ่นดินไหวบ่อยด้วย แต่ไม่ว่าจะบ่อยแค่ไหน ที่ผ่านมา อ่างเก็บน้ำบาซิลิกาก็สามารถรอดพ้นมาได้ทุกครั้งนับตั้งแต่มีการก่อสร้าง นี่ถือว่าเป็นงานฝีมืออันน่าทึ่งจากยุคโบราณ
ในปี 2022 อ่างเก็บน้ำบาซิลิกาได้เปิดให้ผู้คนเข้าชมอีกครั้ง หลังจากปิดตัวลงเมื่อปี 2017 เนื่องจากรัฐบาลเกรงว่าอ่างเก็บน้ำจะได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว จึงได้มีการบูรณะที่ยาวนานถึง 5 ปี และปัจจุบัน อ่างเก็บน้ำบาซิลิกา ก็ถูกเปลี่ยนให้เป็นกึ่งพิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดงผลงานศิลปะสมัยใหม่และเปิดให้คนทั่วไปเข้าชม
จุดไฮไลท์สำคัญของอ่างเก็บน้ำซิลิกาอีกอย่างหนึ่งก็คือ ประติมากรรมฐานรองเสาที่เป็นรูปหัวของเมดูซา 2 หัว เบื้องต้นยังไม่ทราบที่มาของหัวเมดูซาทั้งสองว่ามีที่มาอย่างไร แต่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตำนานที่เป็นเรื่องราวเล่าขานอันโด่งดังเกี่ยวกับเมดูซา และเชื่อได้เลยว่า ถ้าจ้องตาเมดูซาทั้งสองหัจะไม่กลายเป็นหินแน่นอน ผู้เขียนทดลองมาให้แล้ว
เอาล่ะ ถึงเวลาของ Promotion Times! เผื่อใครยังไม่รู้ สายการบินเตอร์กิช แอร์ไลน์ (Turkish Airline) มีบริการพิเศษสำหรับผู้โดยสารที่รอเปลี่ยนเครื่องระหว่างประเทศที่ท่าอากาศยานอิสตันบูล และมีเวลาต่อเครื่องระหว่าง 6 ถึง 24 ชั่วโมง ผู้โดยสารสามารถแสดงความจำนงในการเข้าร่วมชมเมืองฟรีได้ที่ Touristanbul desk บริเวณอาคารโดยสารขาเข้า ใกล้จุดนัดพบที่ 4 หรือบริเวณ Transfer Desk โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มเติม และนี่คือสิ่งที่จะได้รับ
และขอแอบกระซิบว่า ในแต่ละทัวร์จะออกตรงเวลามาก หากในช่วงที่คุณไป แทบไม่มีคนเลย หรือมีแค่คุณ รถทัวร์ก็สามารถออกได้เลย ไม่ต้องรอคนอื่น ๆ ซึ่งคุณสามารถคุยกับไกด์ให้สามารถเปลี่ยนแพลนได้ตามต้องการ (แต่ต้องปรึกษาไกด์ก่อนนะว่าไปได้ไหมอย่างไร ไกด์จะได้จัดสรรเวลาให้ถูก)
ท้ายที่สุดนี้ สำหรับตั๋วเครื่องบิน หากใครจะเดินทางไปไหนหรือพักต่อเครื่องที่สนามบินอิสตันบูล KTC WORLD มีบริการข้อมูลการเดินทางและท่องเที่ยว ที่ดำเนินการโดยบริษัท เวิลด์ เอ็กซ์พลอเรอร์ จำกัด ที่จะช่วยหาตั๋วราคาพิเศษให้กับคุณได้ รูดบัตรได้ไม่มีชาร์จเพิ่ม และทุก ๆ 1,000 คะแนน KTC FOREVER แลกรับส่วนลด 130 บาท และผ่อน 0% นาน 6 เดือน เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรฯ ตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป/เซลส์สลิป (ระยะเวลาการจองและแลกรับส่วนลด : 1 ม.ค. 67 - 31 ธ.ค. 67)
สอบถามและปรึกษาเพิ่มเติม
โทร. 02 123 5050
ทักแชท >> https://ktc.cards/KWT-addline-FB
ที่มาข้อมูล