3 ก.ค. วันปลอดถุงพลาสติกสากล ภาคธุรกิจรวมพลังลดขยะพลาสติก ชูสินค้ารักษ์โลก

ปีหนึ่งๆประเทศไทยต้องเผชิญกับปัญหาขยะพลาสติกจำนวนมหาศาลที่เป็นตัวการทำให้โลกร้อน และปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศ จึงทำให้ทั้งรัฐ และเอกชนเดินหน้าร่วมกันแก้ไขปัญหานี้ ล่าสุดวันนี้ 3 ก.ค. วันปลอดถุงพลาสติกสากล มีหลายหน่วยงานทั้งรัฐ และเอกชน ออกมาแอคชั่นในเรื่องขยะพลาสติกจำนวนมาก เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ได้สนับสนุนภาคเอกชน ให้ออกมาประกาศเจตนารมณ์ ซึ่งมี 45 ผู้ประกอบการ ที่ได้ชูแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ยกระดับธุรกิจสู่เป้าหมาย Net Zero

 

ทั้งนี้ พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แลรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมาย นายโกเมนทร์ ทีฆธนานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในการประกาศเจตนารมณ์เนื่องในวันปลอดถุงพลาสติกสากล International Plastic Bag Free Day 2024 ร่วมกับเครือข่ายภาคเอกชน กลุ่มผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ ผู้ประกอบการร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเครือข่ายสมาคมฯ จำนวน 45 หน่วยงาน รวมกว่า 31,000 สาขา ทั่วประเทศ ใช้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ยกระดับสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero)

เอกชน ลุยขยะพลาสติกต่อเนื่อง

#สปริงนิวส์ ได้สำรวจผู้ประกอบการที่มานำเสนอผลงาน และผลิตภัณฑ์ ภายในงาน พบว่าส่วนใหญ่เป็นการนำเสนอบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก หรือ โครงการลดขยะพลาสติก เช่น เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้นำเสนอโครงการ “The Mall Group Go To Zero : Plastic Drop Point” จุดคัดแยกขยะพลาสติกโดยแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ตู้ Plastic Monster (Plastic Drop Point) พลาสติกยืด/แข็งที่ทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว

และ ตู้คืนขวดอัตโนมัติ (PET Bottle Machine) เพื่อรณรงค์ให้ประชาชนคัดแยกขยะอย่างถูกวิธีตั้งแต่ต้นทาง ด้วยการคัดแยกขยะประเภทขวดพลาสติกใส (PET) นำพลาสติกกลับสู่กระบวนการ รีไซเคิล (Recycle) แปรรูปเป็นพลังงานหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติก และเป็นการสร้างสังคมรีไซเคิลให้กับประเทศไทย

ต่อมาจะพามาดูสินค้าของ บริษัทผลิตภัณฑ์กระดาษไทย จำกัด ใน SCGP ที่ชู Fest by SCGP บรรจุภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสิ่งแวดล้อม มากมายที่จำหน่ายทั้งไทย และต่างประเทศมาโชว์ในงาน ทั้ง ถาดกระดาษเนื้อสดแช่เย็น (Fest Fresh Pak) ถาดอาหารแช่เย็นพร้อมทาน (Fest Redi Pak) วัสดุกว่า 90% ผลิตจากเยื่อยูคาลิปตัส ที่สามารถย่อยสลายได้ภายใน 60 วัน มีเพียงฟิล์มบาง ๆ ใส ๆ ที่เผยให้เห็นอาหารด้านใน และคอยปกป้องอาหารเท่านั้นที่ผลิตจากวัสดุที่สามารถสัมผัสอาหารและนำไปรีไซเคิลได้

นอกจากนี้ยังมีถาดอาหารแช่เย็นพร้อมทาน (Fest Redi Pak) ใช้วัสดุจากเยื่อยูคาลิปตัส สามารถย่อยสลายได้ใน 60 วัน และยังนำฟิล์มที่ปิดถาดลอกออกมาเพื่อแยกไปรีไซเคิลได้  และสิ่งที่ว้าวมากในในครั้งนี้ คือ บรรจุภัณฑ์อาหารรักษ์โลก ลายช้าง ที่นำเสนอช้างไทยสู่ Soft Power เรียกได้ว่าทั้งรักษ์โลก และชูความเป็นไทยสุดๆ

ถัดมาจะพามาดูผลิตภัณฑ์ของ บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC ซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์อาหารรักษ์โลก ที่ย่อยสลายง่าย รวมถึงถุงคัดแยกขยะในโรงแรมที่ย่อยสลายง่ายลดการใช้ขยะพลาสติก ปัจจุบันสินค้าส่งออกไปยังประเทศ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น แนวโน้มตลาดขยายตัวไปได้ดี เพราะกระแสผู้บริโภครักษ์โลกจะร้อนแรงต่อเนื่อง

ไม่เพียงเท่านี้ยังมีสินค้า และบริการของ บริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อแบรนด์  “เกรซ” จุดเด่น คือ ย่อยสลายง่ายได้ภายใน 45 วัน เนื่องจากทำมาจากชานอ้อย และที่สำคัญมีบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารที่หลากหลายให้ลูกค้าได้เลือกใช้ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ สะดวกใช้ สบายล้าง เวฟ อบ อุ่น อาหารได้ ทนต่อความร้อน มีจำหน่ายทั้งในประเทศ ส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น ยุโรป เวียดยนาม ลาว ญี่ปุ่น

ปิดท้ายกันที่ไบโอ -อีโค ซึ่งมีสินค้ารักษ์โลกมาให้เลือกหลากหลาย พร้อมมีการรณรงค์ให้ผู้บริโภคหันมาใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม สะอาด ปลอดภัย ย่อยสลายได้ เพื่อมีส่วนร่วมในการรักษ์โลกของเรา นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟหลากหลายแบรนด์ที่นำแก้วรักษ์โลกมาเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ลูกค้า

โดย นายโกเมนทร์ ทีฆธนานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่าพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้มีความห่วงใยถึงปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว รวมถึงวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นผลพวงมาจากกิจกรรมการบริโภคของมนุษย์ที่ไม่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม

รัฐผนึกเอกชน สู่เป้า Thailand Net Zero 2065

ซึ่งรัฐบาลโดย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้ให้ความสำคัญกับปัญหานี้ จึงได้มีการกำหนด Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561- 2573 ซึ่งมีเป้าหมายในการลดและเลิกใช้พลาสติกด้วยการใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการนำขยะพลาสติกเป้าหมายกลับมาใช้ประโยชน์ 100% ภายในปี พ.ศ.2570 ประกอบกับคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 - 2570) เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2566 ยกระดับให้เท่าทันกับปัญหาสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งการดำเนินการที่จะนำไปสู่เป้าหมายตามที่ประเทศไทยกำหนดไว้นั้น ต้องอาศัยความร่วมมือทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน

ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม จึงใช้โอกาสวันที่ 3 ก.ค. นี้ ซึ่งเป็นวันปลอดถุงพลาสติกสากล International Plastic Bag Free Day 2024  จัดกิจกรรม “ประกาศเจตนารมณ์ ยกระดับการดำเนินงานมุ่งสู่เป้าหมาย Thailand Net Zero 2065” ร่วมกับเครือข่ายภาคเอกชน จำนวน 45 หน่วยงาน ประกอบด้วย เครือข่ายผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ 23 บริษัท ผู้ประกอบการร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 13 บริษัท/แห่ง และเครือข่ายสมาคมฯ

และหน่วยงานสนับสนุน 9 องค์กร รวมเป็น 31,637 สาขา ทั่วประเทศ โดยใช้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ ร่วมกันลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกหรือภาชนะแบบใช้ครั้งเดียว พร้อมส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเข้ามาทดแทน และนำทรัพยากรกลับเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลให้ได้มากที่สุด รวมถึงส่งเสริมการบริการ และการบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

และในโอกาสเดียวกันนี้ ขอเชิญชวนทุกหน่วยงานร่วมกันจัดกิจกรรมรณรงค์ เพื่อนำไปสู่บรรลุเป้าหมายความร่วมมือที่สำคัญ 3 ประการ ประกอบด้วย 1.ร่วมกันส่งเสริมการลด หรือเลิก การใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง3 ประเภท ได้แก่ “ถุงพลาสติกหูหิ้วชนิดบางหรือถุงก๊อบแก๊บ” “ถ้วยหรือแก้วพลาสติก” และ “หลอดพลาสติก”

2.สนับสนุนให้มีการรวบรวมผลิตภัณฑ์พลาสติกเป้าหมายเข้าสู่ระบบรีไซเคิล ร้อยละ 100 ภายในปี พ.ศ 2570 3.สร้างความรู้ความเข้าใจ รณรงค์ให้กับผู้ประกอบการและผู้บริโภค ลดปริมาณขยะที่ต้นทาง สนับสนุนการผลิตการบริการ และการบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มุ่งสู่เป้าหมาย Thailand Net Zero 2065 และที่สำคัญขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกคน ร่วมกันปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยปกป้อง ดูแล รักษาโลกใบนี้ และส่งต่อบ้านที่น่าอยู่และแหล่งทรัพยากรที่สมบูรณ์ให้กับลูกหลานของเราในอนาคตต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• Freitag แบรนด์รักษ์โลก เปิดโปรเจกต์ชวนมาร่วม Custom กระเป๋าในแบบของคุณเอง

• ลด "ปูนเม็ด" ชู "ปูนไฮดรอลิก" ผลิตภัณฑ์รักษ์โลก ที่อาจช่วยไทยบรรลุ Net Zero

• ESG ใส่ใจเรื่องบรรจุภัณฑ์ ถ้า..แบรนด์อยากมี "แพคเกจจิ้งรักษ์โลก" ต้องทำไง?