SHORT CUT
สตาร์ทอัพนิวซีแลนด์ ลงทุนสังเคราะห์กราไฟท์จากเศษไม้ในอุตสาหกรรม นำมาผลิตขั้วแบตเตอร์รี่รถ EV ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตและขนส่ง สหรัฐและ EU หวังช่วยลดการพึ่งพากราไฟท์จากจีน
CarbonScape บริษัทสตาร์ทอัพในนิวซีแลนด์กำลังเปลี่ยนเศษไม้จากอุตสาหกรรมป่าไม้ที่ถูกทิ้ง โดยใช้กระบวนการเร่งปฏิกิริยาด้วยความร้อนให้เป็น "กราไฟท์สังเคราะห์" ที่สามารถนำไปใช้ในแบตเตอรี่ EV ได้
บริษัท ระบุว่า กราไฟท์สังเคราะห์ของพวกเขาเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนกว่า และสามารถช่วยให้สหรัฐและยุโรปลดการพึ่งพาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในจีนได้
Ivan Williams CEO ของบริษัทกล่าวว่า ปัจจุบันกราไฟท์ในการผลิตแบตเตอรี่ EV ได้มาจากกราไฟท์ธรรมชาติที่ขุดได้ หรือเป็นกราไฟท์สังเคราะห์ที่ได้มาจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ซึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์กราไฟท์สังเคราะห์ของ CarbonScape เป็นมิตรกับโลกมากกว่า
นอกจากประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ไบโอกราไฟท์ของ CarbonScape มีแล้ว การผลิตไบโอกราไฟท์ยังมีข้อได้เปรียบในแง่ของการกระจายการผลิตด้วย เนื่องจากใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายและมีอยู่ทั่วไปอย่างเศษไม้ ทำให้สามารถตั้งโรงงานผลิตไบโอกราไฟท์ใกล้กับโรงงานผลิตแบตเตอรี่และโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้
การย้ายฐานการผลิตไบโอกราไฟท์ให้เข้าใกล้ผู้ใช้ปลายทาง นอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งระยะไกลแล้ว ยังเพิ่มความปลอดภัยของห่วงโซ่อุปทานให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าด้วย เนื่องจากลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาผู้ผลิตเพียงไม่กี่ราย และช่วยให้ผู้ผลิตแบตเตอรี่และรถยนต์สามารถจัดหาวัตถุดิบได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีต้นทุนที่ต่ำลง
นอกจากนี้ CarbonScape ยังมุ่งหวังว่าไบโอกราไฟท์จะช่วยให้ประเทศในโลกตะวันตกสามารถลดการพึ่งพาการนำเข้าแบตเตอรี่ LFP-ลิเธียมไอออนจากจีนได้ โดยการสร้างความมั่นคงให้กับห่วงโซ่อุปทานของวัตถุดิบสำคัญ อย่างเช่นกราไฟท์
เมื่อปีที่แล้ว CarbonScape ได้รับเงินทุน 18 ล้านดอลลาร์ (16.7 ล้านยูโร) จากบริษัทป่าไม้ฟินแลนด์-สวีเดน Stora Enso และ Amperex Technology Ltd (ATL) ผู้ผลิตแบตเตอรี่ในฮ่องกง เพื่อก่อสร้างโรงงานไบโอกราไฟท์เชิงพาณิชย์ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันวัสดุดังกล่าวได้รับการผลิตในโรงงานนำร่องในนิวซีแลนด์
ที่มา