SHORT CUT
Volvo ได้ลงนามเซ็นสัญญาร่วมกับบริษัทจีนยักษ์ใหญ่อย่าง CATL ซึ่งทั้งสองบริษัทต้องการลดคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดวงจรชีวิตรถ EV ไม่ว่าจะเป็นการรีไซเคิล, นำวัสดุกลับมาใช้ใหม่
Volvo ได้ลงนามบันทึกความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่อันดับ 1 ของโลก เมื่อวันที่ 16 เมษายน เพื่อทำงานร่วมกันในด้านรีไซเคิลแบตเตอรี่
โดยความร่วมมือนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการรีไซเคิลวัสดุแบตเตอรี่และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของยานพาหนะไฟฟ้า (EV) ตลอดวงจรชีวิต
Volvo กล่าวว่า แบตเตอรี่ให้พลังงานประกอบด้วยองค์ประกอบโลหะที่ไม่หมุนเวียนหลายชนิด และการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการขุดและการแปรรูปถือเป็นสัดส่วนสำคัญของวงจรการผลิตแบตเตอรี่
ในทางกลับกัน ด้วยการพัฒนาอย่างรวดเร็วของตลาดรถ EV ของจีน แบตเตอรี่พลังงานจำนวนมากจะค่อยๆ หมดอายุการใช้งาน และแบตเตอรี่ที่เลิกใช้แล้วซึ่งไม่ได้กำจัดอย่างเหมาะสมจะก่อให้เกิดความท้าทายร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อม
Volvo และ CATL จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนตลอดอายุการใช้งานของรถ EV โดยการรื้อ รีไซเคิล และนำแบตเตอรี่ที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ และวอลโว่จะรีไซเคิลแบตเตอรี่ที่เลิกใช้แล้วจากรถยนต์ไฟฟ้าที่จำหน่าย เช่นเดียวกับแบตเตอรี่ที่เสียในระหว่างการผลิตในโรงงาน
แบตเตอรี่เหล่านี้จะถูกแยกชิ้นส่วนโดยซัพพลายเออร์ที่ได้รับการรับรองจากวอลโว่ เพื่อแยกชิ้นส่วนนิกเกิล โคบอลต์ ลิเธียม และโลหะอื่นๆ มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ฝั่งของ CATL จะใช้วัสดุรีไซเคิลเหล่านี้เพื่อผลิตแบตเตอรี่ใหม่ที่จะใช้ในการผลิตรถยนต์ Volvo ใหม่
ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นตัวอย่างสำคัญในการสร้างโมเดลธุรกิจการรีไซเคิลแบตเตอรี่ซึ่งเป็นโมเดลธุรกิจแบบปิดในจีน ซึ่งถือเป็นการเปิดบทใหม่ในการจัดการวงจรแบตเตอรี่แบบปิด
วอลโว่ เปิดเผยกลยุทธ์ความยั่งยืนในปี 2562 โดยตั้งเป้าที่จะใช้วัสดุรีไซเคิลโดยเฉลี่ย 30 เปอร์เซ็นต์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ทั้งหมดภายในปี 2573 และรวมวัสดุรีไซเคิลอย่างน้อย 35 เปอร์เซ็นต์ในรถยนต์รุ่นใหม่ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2573 เป็นต้นไป
วอลโว่ มุ่งมั่นที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2583 ซึ่งจะต้องอาศัยความพยายามร่วมกันจากพันธมิตรซัพพลายเออร์ทั่วโลก
ที่มา : CNEVpost