รู้จัก 3 ยักษ์ใหญ่ EV จีน "ชาร์จเร็ว วิ่งไกล ราคาถูก" พัฒนาไปไกลแซงทั่วโลก

แบตเตอรี่ EV ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุดของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งประเทศจีนมีจุดแข็งทั้งในด้านการผลิต, การพัฒนา โดยขณะนี้บริษัท CATL สัญชาติจีนได้เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่อันดับ 1 ของโลก ชี้ให้เห็นว่าหากจะแข่งในเรื่องแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ EV จีนถือว่าพัฒนาได้เร็วที่สุด

5 เทคโนโลยีแบตเตอรี่ EV ที่พัฒนาเร็วแซงคู่แข่งทั่วโลก

1.แบตเตอรี่ CATL Shenxing ชาร์จแค่ 10 นาที ได้ระยะทางมากถึง 400 กม. ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้รถ EV ชาร์จว่าเร็วกว่าในอดีตมาก และเชื่อว่าในอนาคตจะส่งออกสู่แบรนด์ต่างๆ เช่น Tesla, Volkswagen และ BMW

2.แบตเตอรี่ CATL x Yutong ใช้ได้นาน 15 ปี (1.5 ล้าน กม.) ซึ่งจะนำใช้กับรถบรรทุก, รถบัส ต่างๆที่ทาง Yutong ผลิต ซึ่งบริษัทนี้เป็นผู้ผลิตรถโดยสารยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ของจีน

3.แบตเตอรี่ BYD (New Blade Battery) ชาร์จ 1 ครั้ง ได้ระยะทาง ~1,000 กม. ซึ่งจากเดิม Blade Battery วิ่งได้ราวๆ 500-600 กม./ชาร์จ แต่แบตเตอรี่รุ่นใหม่จะทำให้รถของ BYD และพาร์ทเนอร์แบรนด์อื่นๆ เช่น Toyota, KIA, Hyundai, Mercedes-Benz มีรถ EV ที่วิ่งได้ไกลขึ้นอีกมาก

4.แบตเตอรี่ Nio (Solid-State Battery) ระยะทาง ~1,055 กม./ชาร์จ ซึ่ง Nio กำลังจะเปิดตัว Nio ET7 รถยนต์ไฟฟ้าซีดานที่สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 1,000 กม. และยังมาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็วอย่าง Nio 900V EDS 

5.เทคโนโลยีชาร์จเร็ว Nio 900V EDS ชาร์จ 5 นาที = ~255 กม. โดยเทคโนโลยีนี้จะเริ่มใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าของ Nio ซึ่งแบตเตอรี่ของแบรนด์เองก็สามารถวิ่งได้ไกลถึง 1,000 กม. ด้วย

ปัจจุบันการพัฒนาเทคโนโลยี EV ของจีนถือว่าล้ำหน้ากว่าคู่แข่งประเทศอื่นๆอยู่มาก ด้วยปัจจัยต่างๆเช่น แหล่งผลิต, แหล่งแร่ธาตุ การรวมตัวกันของค่ายรถจีนที่ต้องการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งขณะนี้เห็นได้ชัดแล้วว่า "รถ EV จีน" สามารถต่อสู้กับคู่แข่งทั่วโลกได้ 

อนาคตภายใน 1-2 ปีนี้ เชื่อว่ารถ EV จีนจะทำออกมาได้ตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระยะทางที่วิ่งได้ไกลขึ้น, ชาร์จเร็วราวกับเติมน้ำมัน แต่อย่างไรก็ตามประเทศไทยเองก็ต้องพัฒนาโครงข่ายสถานีชาร์จต่างๆขึ้นมารองรับด้วยเช่นกัน 

ประเทศไทยในปัจจุบันยังคงมีสถานีชาร์จจำนวนจำกัด โดยส่วนใหญ่ยังคงเป็นสถานีชาร์จกระแสตรง (AC) ซึ่งใช้เวลาชาร์จนาน ทำให้การเดินทางไกลด้วยรถ EV จึงยังไม่สะดวกนัก แต่เมื่อรถ EV พัฒนาไปไกลมากขึ้น รองรับการชาร์จเร็ว (DC) ได้มากขึ้น เชื่อว่าแบรนด์ที่เข้ามาทำการตลาดในไทยจะต้องเร่งพัฒนาให้ใช้งานได้สะดวกกว่าปัจจุบันอย่างแน่นอน 

ที่มา : ArenaEV , CarNewsChina , Electrek