"วาเลนเซีย" เมืองจากสเปน ทำไมถึงเป็นสุดยอด Green City แห่งยุโรป ปี 2024
Valencia เมืองเล็ก ๆ จากประเทศสเปน ที่มาแรงเรื่องใช้นวัตกรรมสีเขียว พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากรให้ดีขึ้น กระทั่งปีนี้ ขึ้นแท่นอันดับ 1 เมืองหลวงสีเขียวแห่งยุโรปประจำปี 2024 เหตุผลอะไรที่ทำให้เมืองนี้ได้รับรางวัลนี้ไป ติดตามได้ที่นี่
เป็นประจำทุกปีที่คณะกรรมาธิการยุโรปจะมอบรางวัล “เมืองสีเขียว” ให้แก่เมืองที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาสิ่งแวดล้อม โดยจะแบ่งรางวัลออกเป็น เมืองหลวงสีเขียวแห่งยุโรป หรือ EGC มอบแด่บรรดาเมืองใหญ่ที่มีประชากรมากกว่า1 แสนคน และรางวัลใบเขียวแห่งยุโรป หรือ EGL ให้แก่เมืองขนาดเล็กที่มีประชากร 2 หมื่นคน
โดยเมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา “เมืองวาเลนเซีย” ในสเปน เริ่มต้นรับสถานะ “เมืองหลวงสีเขียวแห่งยุโรปประจำปี 2024” อย่างเป็นทางการแล้ว
"เมืองวาเลนเซีย” ตั้งอยู่ทางชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศสเปน ที่นี่มีประชากรอาศัยอยู่ราว 837,000 คน และเป็นเมืองเอกของแคว้นวาเลนเซีย อีกทั้งยังเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ปีนี้ เมืองวาเลนเซียคว้ารางวัลสำคัญนี้ไปครอง เนื่องจากเป็นเมืองที่ประสบความสำเร็จในการจัดกิจกรรมและอีเว้นท์ต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาทั้งด้านสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ที่นี่ ยังมีความเป็นเลิศในเรื่องการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และทั้งหมดนี้ ประชาชนในเมืองล้วนมีส่วนร่วม
วาเลนเซียยังเป็นหนึ่งในหลายเมืองของยุโรปที่ตั้งเป้าจะมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2023 คือ พวกเขาตั้งเป้าการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือก๊าซเรือนกรจกเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ เท่ากับปริมาณคาร์บอนที่ถูกดูดซับกลับคืนมาผ่านป่าหรือวิธีการอื่นๆ และที่สำคัญคือ ที่นี่ยังมีนวัตกรรมที่รองรับการเข้าสู่สังคมแห่งความยั่งยืนทางพลังงานอีกมากมาย
ไฟข้างทางที่เป็นมากกว่าไฟข้างทาง
นี่คือนวัตกรรรมที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในเมืองวาเลนเซีย โดยไฟตามข้างทางที่ถูกออกแบบมาให้สามารถชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้เริ่มติดตั้งมาตั้งแต่ปลายปี 2021 ในตอนนั้นหลายเมืองของยุโรปก็ใช้นวัตกรรมตัวนี้เช่นกัน และที่เมืองวาเลนเซีย แรกเริ่มด้วยการติดตั้งทั้งหมด 12 ตัว ก่อนจะขยายไปเรื่อยๆ ปัจจุบันมีมากกว่า 150 ตัวแล้ว ข้อดีของมันคือราคาถูก
นอกเหนือจากไฟข้างทางจะใช้ชาร์จแบตเตอรีรถได้แล้ว ที่เมืองวาเลนเซียยังมีการติดตั้งกล้องจับความเคลื่อนไหวที่ไฟข้างทางด้วย โดยไฟจะเปิดเมื่อมีคนเดินผ่าน และจะปิดเมื่อไม่มีใคร นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยประหยัดพลังงาน
หัวหน้ากรมไฟสาธารณะของเมืองวาเลนเซียอธิบายว่า กล้องแต่ละตัวจะคอยสังเกตทางเดินหรือบนชายหาด เมื่อมันเจอว่ามีคนอยู่ในพื้นที่ของมัน ไฟก็จะเปิดหรือสว่างขึ้น และหลังจากนั้นประมาณ 5 นาที ระบบก็จะหรี่ไฟลง
แผงโซลาร์เซลล์เหนือตลาด
คาบานยัล เป็นชุมชนประมงขนาดเล็ก แต่มาตอนนี้มันกลายมาเป็นแหล่งทดลองการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน โดยเหนือพื้นที่ตลาด มีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ขนาดใหญ่เอาไว้
นี่เป็นโครงการที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรป ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและยกระดับสมาร์ทซิตี ตลอดระยะเวลา 7-8 ปีที่ผ่านมา ชุมชุนแห่งนี้อยู่ภายใต้การแปลงโฉมครั้งใหญ่ โดยมีการตั้งติดแผงโซลาร์เซลล์ที่ดาดฟ้าของตลาดเทศบาลคาบานยัล ซึ่งพลังงานที่ได้จากแผงโซลาร์เซลล์ก็จะถูกนำไปใช้เปิดเครื่องปรับอากาศให้แก่ภายในตลาด
และในเร็วๆนี้ ย่านลาสนาเวส ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง ก็กำลังจะตั้งติดโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อชุมชน ซึ่งใช้งบประมาณ 1 แสนยูโรป และราว 80 เปอร์เซ็นต์ของงบประมาณมาจากเงินของชาวบ้านในท้องที่
โดยผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานในพื้นที่ดังกล่าวบอกว่า สิ่งที่พวกเขาได้รับผ่านโครงการนี้คือ การเป็นต้นแบบให้แก่ที่อื่นๆ เพราะหลังจากนี้มันจะง่ายมากขึ้นในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐและชาวบ้านตามพื้นที่อื่นๆ หรือตามดาดฟ้าสาธารณะ
สวรรค์ของนักปั่นจักรยาน
บรรดานักปั่นจักรยานทั้งหลายจะต้องพบว่า ตนเองอยู่ในสวรรค์ของการปั่น เพราะที่เมืองวาเลนเซีย ที่นี่มีทางจักรยานโดยเฉพาะที่มีความยาวกว่า 150 กิโลเมตร และมีการจำกัดความเร็วในถนนราว 75 เปอร์เซ็นต์ของเขตเมืองไว้ที่12 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ดังนั้นการปั่นจักรยานจึงเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม และยังเป็นวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการออกไปสำรวจพื้นที่สีเขียวและชายหาดภายในเมืองอีกด้วย
ที่มา: European Commission
เนื้อหาที่น่าสนใจ
