ถ้าอยาก 'ซื้อบ้าน' ในยุคที่โลกร้อน ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?
ใครกำลังวางแผนซื้อบ้าน เคยคิดไหมว่าวิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะส่งผลต่อความเสี่ยงในการซื้อบ้านของเราอย่างไร ควรซื้อบ้านที่ไหน และต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
เจสซี คีแนน อาจารย์มหาวิทยาลัยทูเลน ผู้ศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่ออสังหาริมทรัพย์ กล่าวถึงความเสี่ยงสองประเภทที่ผู้ซื้อบ้านควรพิจารณา
1. สิ่งที่เรียกได้ว่า "ภาวะช็อกจากสภาพอากาศ" เนื่องจากมนุษย์เผาผลาญเชื้อเพลิงฟอสซิลมากขึ้น ทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว เช่น พายุเฮอริเคน น้ำท่วม และไฟป่า จึงเกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงมากขึ้น นั่นหมายความว่าความเสี่ยงที่บ้านของคุณจะได้รับความเสียหายหรือถูกทำลายจากภัยพิบัติก็เพิ่มมากขึ้นตามกาลเวลา
2. "ความเครียดจากสภาพอากาศ" เนื่องจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงมากขึ้น ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นต้องจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน เช่น กำแพงกันคลื่น เครื่องสูบน้ำพายุ และการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญ ซึ่งบริการเหล่านี้ได้รับเงินสนับสนุนส่วนใหญ่จากภาษีทรัพย์สิน นั่นหมายความว่าภาษีที่เราต้องจ่ายก็จะอาจเพิ่มขึ้นตามความเสี่ยงของบ้านเราเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อมูลค่าบ้านของคุณในระยะยาว เพราะทรัพย์สินในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสูง "ก็มีความเสี่ยงที่จะมีผู้ซื้อน้อยลงเช่นกัน"
อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจซื้อหรือสร้างบ้านสักหลังก็ยังไม่นับว่าความคิดที่แย่ ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าการเป็นเจ้าของบ้านหรืออสังหาฯ ยังคงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างหนทางไปสู่ความมั่งคั่งและมั่นคง
ประเด็นคือสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญเมื่อตัดสินใจซื้อบ้าน
เริ่มต้นด้วยการประเมินระดับความเสี่ยงที่บ้านและทัพย์สินของเราต้องเผชิญ เช่น การตรวจสอบว่าทรัพย์สินดังกล่าวอยู่ในเขตที่เสี่ยงต่อการน้ำท่วมบ่อยครั้งหรือไม่ บ้านของเราจะได้รับผลกระทบจากความร้อนจากอาคารหรืออุตสาหกรรมในพื้นที่โดยรอบหรือไม่ และในบริเวณใกล้เคียงมีพื้นที่สีเขียวมากเพียงพอที่จะลดผลกระทบจากคลื่นความร้อนที่มีโอกาสเกิดขึ้นในทุกประเทศหรือไม่ ไปจนถึงความเสี่ยงที่พื้นที่ดังกล่าวจะได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลที่สูงขึ้นในอนาคต
แม้ว่าการวิเคราะห์ข้างต้น จะใช้ปัจจัยและความเสี่ยงด้านสภาพอากาศของสหรัฐอเมริกาในการพิจารณาเป็นหลัก แต่สิ่งสำคัญที่ผู้ซื้อบ้านในไทยก็สามารถนำมาปรับใช้ได้คือการพิจารณาให้รอบด้าน ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องราคาหรือทำเลทางเศรษฐกิจและความสะดวกสบายเท่านั้น เพราะนั่นอาจเป็นพื้นที่ที่เราต้องอาศัยไปตลอดชีวิต
