นี่คือ 6 แผ่นดินไหวที่คร่าคนมากที่สุด นับตั้งแต่ปีค.ศ. 1950 ผลกระทบที่เกิดจากเหตุการณ์ที่คาดเดาไม่ได้ ทำให้เกิดความโศกเศร้าทั่วโลก ที่ต้องเสียคนที่รักไป
จากการคาดการณ์ของนักวิชาการหลายท่านทั่วโลกที่บอกตรงกันว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศจะทำให้ปีต่อ ๆ ไปเกิดภัยพิบัติรุนแรงมากขึ้น ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายพื้นที่ทั่วโลกเกิดภัยพิบัติมากมายและรุนแรงขึ้นจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำท่วม ไฟป่า ฝนฟ้าคะนองรุนแรง พายุ ภูเขาไฟปะทุ สึนามิ แผ่นดินไหว ฯลฯ จนสร้างสถิติรุนแรงเป็นประวัติการณ์ในหลายประเทศ
เมื่อกล่าวถึงสถิติ และสืบเนื่องจากเปิดปี 2025 มา ก็เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงขึ้นที่ทิเบตและเนปาล ส่งให้มีผู้เสียชีวิตนับร้อย สปริงนิวส์ในคอลัมน์ Keep The World จึงอยากพาย้อนดู 6เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด นับตั้งแต่ปีค.ศ. 1950 โดยอ้างอิงจากการรวบรวมของ Britannica
เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ปีค.ศ.1970 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.9 นอกชายฝั่งของเปรู ทำให้เกิดดินถล่มครั้งใหญ่ ส่งผลให้อาคารหลายแห่งพังถล่มลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 70,000 คน โดยดินถล่มที่สร้างความเสียหายมากที่สุด มาจากภูเขาฮัวสกราน ภูเขาที่สูงที่สุดของเปรู ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอนดีส
แผ่นดินไหวขนาด 7.6 เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2005 ในพื้นที่แคชเมียร์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของปากีสถานและในเขตชายแดนตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน นอกจากนี้แรงสั่นสะเทือนยังกระทบต่อพื้นที่ใกล้เคียงอย่างอินเดียและอัฟกานิสถานอีกด้วย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 79,000 คนและมีอาคารบ้านเรือนมากกว่า 32,000 หลังพังทลายลงมา (ผู้เสียชีวิตนี้ยังไม่นับรวมในอินเดียและอัฟกานิสถาน) นอกจากนี้ เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ผู้รอดชีวิตหลายแสนคนรอดมาได้แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับสภาพอากาศที่หนาวเย็นไปพร้อมกัน
แผ่นดินไหวเสฉวนเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ปีค.ศ. 2008 ได้คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 90,000 คน บาดจเบอีก 375,000 ราย และทำให้ผู้คนนับ 5,000,000 คนไร้บ้าน พื้นที่ของเมืองเป่ยชวนมากกว่าครึ่งถูกทำลายและเกิดการทะลักท่วมจากทะเลสาบใกล้เคียง โดยศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ที่เมืองเหวินชวน ซึ่งอยู่ห่างจากเฉิงตูไปประมาณ 100 กิโลเมตร
วันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ.2004 นอกชายฝั่งเกาะสุมาตราของประเทศอินโดนีเซีย เกิดแผ่นดินไหวใต้มหาสมุทรอินเดียขนาด 9.1 และใน 7 ชั่วโมงต่อมาก็ได้ก่อเกิดคลื่นสึนามิแผ่นขยายไปทั่วมหาสมุทรอินเดีย ทำลายล้างชายฝั่งไปไกลถึงแอฟริกาตะวันออก รวมทั้งสิ้น 13 ประเทศ ตั้งแต่อินโดนีเซีย ศรีลังกา อินเดีย มัลดีฟส์ รวมถึงไทย ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 230,000 ราย ซึ่งทางการอินโดนีเซียประเมินว่า ผู้เสียชีวิตในประเทศตนเพียงประเทศเดียว ก็มีมากกว่า 200,000 รายแล้ว โดยเฉพาะจังหวัดอาเจะห์ ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา
แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของถังซาน ประเทศจีน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ค.ศ.1976 ด้วยความรุนแรง 7.5 ริกเตอร์ เกือบทำลายเมืองถังซานทั้งเมืองราบเป็นหน้ากลอง ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมและเหมืองถ่านหินสำคัญของประเทศจีน ห่างจากกรุงปักกิ่ง 110 กิโลเมตร ทางการรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 242,000 ราย (มีการคาดการณ์ว่าตัวเลขไม่เป็นทางการ อาจมีผู้เสียชีวิตพุ่งไปถึง 655,000 คน) มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 700,000 คน เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นขณะผู้คนกำลังหลับไหล และโครงสร้างของที่พักอาศัยไม่ค่อยแข็งแรง
ในช่วงเย็นของวันที่ 12 มกราคม ปี 2010 แผ่นดินไหวขนาด 7.0 และอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นอีกหลายครั้ง ได้ทำลายล้างเขตมหานครปอร์โตแปรงซ์ เมืองหลวงของเฮติ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปประมาณ 300,000 คน และมีผู้รอดชีวิตอีกประมาณ 1,500,000 คน แต่ก้ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน ไม่มีที่อยู่อาศัย
อย่างไรก็ตาม ยังมีเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรงที่เกิดขึ้นอีกหลายครั้ง หลายแห่งทั่วโลก ทั้งก่อนและหลังปีค.ศ. 1950 ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย ตามรายงานจากอีกหลากหลายแหล่งข้อมูล แต่ในอนาคต ปรากฎการณ์เหล่านี้จะยังคงมีอยู่ ซึ่งจะรุนแรงขึ้นหรือทุเลาลงก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศแปรปรวนว่าจะไปกระตุ้นมากน้อยแค่ไหน และเราเองก็สามารถช่วยลดอัตราเสี่ยงนั้นได้ ด้วยการช่วยกันทำให้โลกร้อนน้อยลง
ที่มาข้อมูล