SHORT CUT
ปลาน้ำลึกแองเกลอร์ โผล่ขึ้นผิวน้ำ หลายคนสงสาร คิดว่าขึ้นมาหาแสงสุดท้าย แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ ถ้าจะสงสารปลาในทะเล เราขอแนะนำให้รู้จัก โมลาโมลา ปลาทะเลที่ไร้ประโยชน์ที่สุด
ร้องไห้ให้แองเกลอร์แล้ว อยากให้นึกถึงโมลาโมลาด้วย เพราะนี่คือปลา ที่ขึ้นชื่อว่า ไร้ประโยชน์ที่สุดในท้องทะเล สปริงนิวส์ คอลัมน์ Keep The World ชวนรู้จัก ปลาทั้ง 2 สายพันธุ์ ระหว่างปลาแองเกลอร์ที่กำลังเป็นไวรัล และปลาโมลาโมลาที่ก็น่าสงสารไม่แพ้แองเกลอร์เลย
ปลาแกงเกลอร์ว่ายขึ้นผิวน้ำ อยากเห็นแสงสุดท้ายก่อนตาย? Cr. AFP
หลายคนน่าจะได้รู้ความจริงกันไปบ้างแล้ว หลังมีไวรัล พบปลาแองเกลอร์ โผล่ว่ายขึ้นมายังผิวน้ำ แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์น้ำลึก ที่ชอบอยู่ในความมืด และก็มีลักษณะพิเศษคือมีไฟล่อเหยื่อติดไว้ที่หัวการขึ้นมาบนผิวน้ำของมัน สร้างความฮือฮา ทำให้หลายคนเข้าใจผิด คิดว่า มันคงขึ้นมา เพราะใกล้ตายแล้ว เลยอยากเห็นแสงสุดท้ายก่อนที่จะจากโลกนี้ไป แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ใช่แบบนั้นเลย
ปลาตกเบ็ด หรือ ปลาแองเกลอร์ (Anglerfish) ฉายา ปลาปีศาจทะเลดำ (Melanocetus Johnsonii) เป็นปลาทะเลน้ำลึก อยู่ในกลุ่มปลากระดูกแข็ง ชื่อก็ชัดเจนมากว่าปลาตกเบ็ด เพราะบนหัวมันมีติ่งเนื้อก้านยาวยื่นออกมา เรืองแสงได้ในที่มืด (เป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่ง นามว่า เอสกา ที่เรืองแสงได้) ใช้สำหรับล่อเหยื่อให้เข้ามาใกล้ปาก จะได้เขมือบได้ง่าย ๆ ชอบกินกุ้งและปลาขนาดเล็กเป็นอาหาร
Cr. MBARI
พวกมันมีมากกว่า 200 ชนิด รูปร่างลักษณะแตกต่างกันไป สามารถพบในทะเลได้ทั่วโลก แต่ส่วนใหญ่จะอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกและแอนตาร์กติก และที่จะพบได้แน่ ๆ เลยคือเขตน้ำลึกตั้งแต่ 200-2,500 เมตร มีอายุขัยประมาณ 25 ปี ขนาดตัวไม่ใหญ่มาก มีขนาดเท่าถ้วยน้ำชาหรือเล็กกว่าเท่าลูกบอลนิ่มๆเล็กๆ ใหญ่สุดที่เคยพบคือ 1.2 เมตร
จากคลิปไวรัล เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2025 นักวิจัยจากองค์กร Condrik Tenerife ได้บันทึกภาพปลาแองเกลอร์ฟิช ใกล้ผิวน้ำทะเลนอกชายฝั่งหมู่เกาะคานารี ประเทศสเปน นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ตั้งข้อสังเกตว่า การที่สัตว์น้ำลึกขึ้นมาบนผิวน้ำแบบนี้ อาจเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิน้ำทะเลที่ส่งผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตในทะเลลึก
นอกจากนี้ ปรากฎการณ์เอลนีโญ ก็อาจจะมีส่วนอย่างมาก ที่จะส่งผลต่อกระแสน้ำในมหาสมุทร อาจบังคับให้สัตว์ทะเลลึกต้องอพยพขึ้นสู่ผิวน้ำ ซึ่งสำหรับเจ้าปลาคันเบ็ดตัวนี้ นี่ไม่ใช่ตัวแรก แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ มีปลาน้ำลึกอีกจำนวนมากที่โผล่ขึ้นในลักษณะเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม บางส่วนก็ยังคิดว่า อีกทฤษฎีหนึ่งที่ก็อาจเป็นไปได้คือ ที่อยู่อาศัยของมันหรือที่ที่มันจากมา มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นหรือไม่ อย่างเช่น ภัยธรรมชาติใต้น้ำ แผ่นดินไหว สึนามิ หรืออาจะเป็นภูเขาไฟใต้น้ำเตรียมปะทุ
Cr. Monterey Bay Aquarium
แต่สำหรับการขึ้นมาเพื่ออยากเห็นแสงสุดท้ายนั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนยืนยันแล้วว่าไม่เป็นความจริง มันแค่ลอยตัวขึ้นมาเรื่อย ๆ อาจเป็นเพราะอยู่ในพื้นที่ใต้น้ำที่มีแรงดันสูง หากน้ำเกิดแรงดัน หรือเกิดกระแสใต้น้ำรุนแรง ก็อาจถูกพัดพาขึ้นมาได้โดยไม่ตั้งใจ
เหตุผลที่เรียกโมลาโมลาว่าแบบนั้น ก็สามารถพิสูจน์ได้ด้วยการพิมพ์คำว่า useless fish (ปลาไร้ประโยชน์) ลงไปใน google ได้เลย และคุณจะพบแต่คำว่า sunfish เต็มไปหมด ทำไมมันถึงได้ฉายานี้?
Cr.Monterey Bay Aquarium
โมลาโมลา หรือ ปลาพระอาทิตย์ (Sunfish) เป็นปลาที่อาศัยอยู่ในน่านน้ำเปิด มีขนาดตัวที่ใหญ่และแบน ลำตัวยาวได้ประมาณ 3.5 เมตร สีเทาเงิน ปากเล็กดวงตาโต หนักได้มากถึง 2,268 กิโลกรัม ชอบกินทั้งพืชและสัตว์ อายุขัยประมาณ 10 ปี และถือว่าเป็นปลากระดูกแข็งที่มีน้ำหนักตัวมากที่สุดในโลก (ไม่นับฉลามและกระเบน)พวกมันชอบขึ้นมาใกล้ผิวน้ำ เพื่ออาบแดดบ่อย ๆ หลังจากลงลึกไปยังน้ำเย็น พฤติกรรมนี้ทำให้มันได้ชื่อมาว่า ปลาพระอาทิตย์ บางครั้งหากดำน้ำตื้นก็สามารถเห็นพวกมันได้
สาเหตุที่มันถูกเรียกว่าปลาไร้ประโยชน์ เพราะมันแทบจะเอาตัวรอดเองแทบไม่ค่อยได้เลย ด้วยรูปร่างของมันที่แบน แถมมีน้ำหนักตัวเยอะ ทำให้พวกมันเคลื่อนไหวช้า ว่ายน้ำได้แต่ไม่คล่องแคล่ว ซึ่งเวลาส่วนใหญ่ของพวกมันคือมักว่ายไปติดอวนของชาวประมงอยู่บ่อย ๆ หรือไม่ก็ลอยเฉื่อย ๆ ในมหาสมุทรไปเรื่อย ๆ เหมือนของตกแต่งทะเล
Cr. Monterey Bay Aquarium
นอกจากนี้ สัตว์น้ำที่มันกินเป็นหลักคือแมงกะพรุน ที่ไม่ค่อยมีคุณค่าทางโภชนาการมากนัก และแมงกะพรุนก็ถูกมองว่าไม่ค่อยได้มีส่วนช่วยในระบบนิเวศทางทะเลมากเท่าไหร่ แถมเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของปรสิตต่าง ๆ ได้ แต่อย่างไรเสีย การกินแมงกะพรุนของโมลาโมลา ก็สามารถช่วยทะเลควบคุมจำนวนประชากรแมงกะพรุนได้
สรุปเลย คือ ภาพไวรัลของการพบโมลาโมลาที่เห็นได้บ่อยคือ เห็นมันติดขึ้นมากับอวนประมง กับมันถูกแมวน้ำแทะ จนแหว่ง เปรียบเสมือนขนมยามว่างของสัตว์นักล่าในทะเล เพราะมันว่ายหนีไม่ได้ คุณว่ามันไร้ประโยชน์ และน่าสงสารรึเปล่า?
ที่มาข้อมูล
Monterey Bay Aquarium Research Institute