มิลาน ห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศในเมือง

เมื่อปีที่ผ่านมา หนึ่งในเมืองหลวงแฟชั่นโลกอย่าง “มิลาน” เคยได้ชื่อว่ามีอากาศแย่มากที่สุดในโลก (อันดับ 3) โดยมีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงกว่าที่มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) มากถึง 24 เท่า สถาปัตยกรรมอันวิจิตรถูกบดบงด้วยหมอกควันมลพิษ แทบไม่เหลือราศี

สถาวะการณ์เช่นนี้ อิตาลีจึงออกกฎที่เข้มงวดขึ้น โดยมุ่งไปที่พฤติกรรมของมนุษย์ ยกตัวอย่างเช่น ห้ามทิ้งน้ำเสีย จำกัดการใช้เครื่องทำความร้อน ขับรถยนต์ได้เฉพาะตอนกลางวัน ฯลฯ ล่าสุด มิลานได้ขยายผลไปถึงการห้ามสูบบุหรี่แล้ว

 

ทำไมเมืองมิลานห้ามสูบบุหรี่ ?

ย้อนกลับไปในปี 2020 มิลานผ่านกฎหมายเกี่ยวกับคุณภาพอากาศ ซึ่งเรียกร้องให้มีการห้ามสูบบุหรี่ในสวนสาธารณะ สนามเด็กเล่น สนามกีฬา รวมถึงป้ายรถประจำทาง แน่นอนว่าเมื่อมีมาตรการทำนองนี้ออกมา ย่อมมีทั้งคนเห็นด้วย และค้านหัวชนฝา

มอร์แกน อิชาค ช่างประปาท้องถิ่น วัย 46 ปี เปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า “ผมคิดว่ากฎหมายใหม่เข้มงาดเกินไป ผมเห็นด้วยที่ห้ามสูบบุหรี่ในบ้าน ไม่สูบบุหรี่ใกล้เด็ก และผู้สูงอายุ แต่การห้ามสูบบุหรี่กลางแจ้งถือเป็นการริดรอนเสรีภาพอย่างชัดเจน”

ขณะที่ สเตลินา ลอมบาร์โด วัย 56 ปี ไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่าเธอสนับสนุนมาตรการห้ามสูบบุหรี่อย่างเต็มที่ “ฉันเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุของมลพิษจำนวนมาก ในยุคที่เราต้องต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ มาตรการดังกล่าวน่าจะพอช่วยลดมลพิษลงได้”

อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่ามาตรการดังกล่าวมีจุดมุงหมายเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศในเมือง เพื่อประโยชน์สูงสุดของสุขภาพประชาชน ทั้งยังมิให้เด็กพบเห็นพฤติกรรมการสูบบุหรี่  และอาจลอกเลียนแบบได้

หลายคนอาจสงสัยว่าการห้ามสูบบุหรี่มันช่วยปรับปรุงมลพิษในอากาศได้ยังไง? SPRiNG จึงค้นลิ้นชักดูงานวิจัยจากสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NIH พบว่า ภายในอาคารมีระดับมลพิษลดลง 93% เมื่อเทียบกับผับที่อนุญาตให้สูบบุหรี่

อย่างไรก็ดี กฎหมายดังกล่าวไม่ได้ครอบคลุมถึงบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งนี่ยังเป็นช่องโหว่อย่างหนึ่ง ผู้คนอาจโยกย้ายหันไปสูบบุหรี่ไฟฟ้าแทน

 

ที่มา: The Japan News

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

10 ประเทศที่คุณภาพอากาศสะอาดที่สุดในโลก

7 ประเทศ ที่คุณภาพอากาศดีที่สุดในโลก ได้มาตรฐาน WHO

อิตาลีออกกฎแก้ฝุ่นควัน มิลานกลายเป็นเมืองคุณภาพอากาศแย่สุดอันดับ 3 ของโลก