SHORT CUT
ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ เตือน 6-10 มกราคม ฝุ่น PM2.5 สูงขึ้น แจ้ง 15 จังหวัด งดเผา ด้านภาคเหนือเร่งตั้งการ์ดรับมืออย่างเข้มข้น เช่น ลำพูน ” เปิดให้บริการ “สุขศาลา”
ต้นปี2568 อากาศเย็นๆแบบนี้หลายคนดีใจที่หลายพื้นที่ได้มีโอกาสสัมผัสอากาศเย็น แต่หารู้ไม่ว่าอากาศเย็นเหล่านี้มากับ “ฝุ่น PM2.5” ที่สูงขึ้น โดย ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) แจ้งประชาชน ในช่วงสัปดาห์นี้ ระหว่างวันที่ 6-10 มกราคม 2568 สถานการณ์ฝุ่นละอองมีแนวโน้มที่จะขยับสูงขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันตก เนื่องจากมวลอากาศเย็นที่แผ่เข้ามาจากด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ส่งผลให้อากาศนิ่งและจมตัว ฝุ่นละอองไม่สามารถระบายออกไปจากพื้นที่ได้
จากการสำรวจข้อมูลจุดความร้อน ประจำวันที่ 5 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา จาก GISTDA ประเทศไทยมีจุดความร้อนทั้งสิ้น 490 จุด มาจาก นาข้าว 171 จุด พื้นที่ป่า 110 จุด เกษตรอื่น 73 จุด อ้อย 44 จุด ข้าวโพด 20 จุด และ อื่นๆ 72 จุด โดยจังหวัดที่มีจุดความร้อนสูงสุด 15 จังหวัด ดังนี้ 1.ลพบุรี 48 จุด 2.ชัยภูมิ 35 จุด 3.กาฬสินธุ์ 31 จุด 4.นครสวรรค์ 30 จุด 5.สระบุรี 25 จุด 6.นครราชสีมา 24 จุด 7.เพชรบูรณ์ 18 จุด 8.กาญจนบุรี 18 จุด 9.ชลบุรี 18 จุด 10.ขอนแก่น 17 จุด 11.ปราจีนบุรี 15 จุด 12.เชียงราย 14 จุด 13.พิจิตร 13 จุด 14.มหาสารคาม 13 จุด และ 15.นครนายก 11 จุด ซึ่ง ศกพ.ได้ประสานกับหน่วยงานและจังหวัด ขอให้ติดตามควบคุมการเผาอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ มอบหมายกรมควบคุมมลพิษ ยกระดับการรายงานและคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก พร้อมทั้งแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดในพื้นที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เน้นย้ำการป้องกันและแก้ไขปัญหา ทั้งพื้นที่เมือง พื้นที่เกษตร พื้นที่ป่า เพื่อคุณภาพชีวิตประชาชน
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงปลายปีและต้นปี โดยมีสภาพอุตุนิยมวิทยารวมถึงแหล่งกำเนิดฝุ่นละออง เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พบฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งต้องขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมกันป้องกันที่แหล่งกำเนิด ทั้งในพื้นที่เมือง พื้นที่การเกษตร และพื้นที่ป่า เพื่อบรรเทาความรุนแรงของสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน
โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย เด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ ขอให้พี่น้องประชาชนดูแลสุขภาพ ทั้งนี้ ทุกคนสามารถตรวจสอบคุณภาพอากาศก่อนออกจากบ้าน ติดตามข้อมูล ข่าวสาร การคาดการณ์คุณภาพอากาศ ได้ที่เว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Air4thai หรือ แฟนเพจศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ส่วนในวันนี้ 7 มกราคม 2568 ณ 07:00 น ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ รายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพอากาศ
สรุปดังนี้ภาพรวมปริมาณ PM2.5 ในประเทศพบเกินค่ามาตรฐานใน จ.ปทุมธานี กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรสาคร จ.สมุทรปราการ จ.เชียงราย จ.น่าน จ.พะเยา จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.แพร่ จ.อุตรดิตถ์ จ.สุโขทัย จ.พิษณุโลก จ.ตาก จ.เพชรบูรณ์ จ.นครสวรรค์ จ.อุทัยธานี จ.ชัยนาท จ.สิงห์บุรี จ.ลพบุรี จ.สระบุรี จ.อ่างทอง จ.สุพรรณบุรี
จ.พระนครศรีอยุธยา จ.กาญจนบุรี จ.ราชบุรี จ.สมุทรสงคราม จ.เพชรบุรี จ.ปราจีนบุรี จ.สระแก้ว จ.ฉะเชิงเทรา จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.ชุมพร จ.หนองคาย จ.เลย จ.อุดรธานี จ.นครพนม จ.หนองบัวลำภู จ.สกลนคร จ.มุกดาหาร จ.กาฬสินธุ์ จ.มหาสารคาม จ.อำนาจเจริญ จ.ชัยภูมิ จ.ยโสธร จ.อุบลราชธานี จ.ศรีสะเกษ จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ และ จ. สุรินทร์
อย่างไรก็ตามมีคำแนะนำทางสุขภาพ ดังนี้
มาดูแนวทางการรับมือ และการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในภาคเหนือกันบ้าง อย่างเช่น เทศบาลเมืองลำพูน ร่วมกับบริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด (GSK) และบริษัท ลำพูน ซิตี้ แลป จำกัด จัดกิจกรรม “ชาวหละปูนฮักปอด” เปิดให้บริการ “สุขศาลา” ศูนย์สุขภาพชุมชนถนนรถแก้ว เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพปอดเชิงรุกแก่ประชาชน
โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินหายใจจากสภาพอากาศและมลภาวะ รณรงค์ตรวจสมรรถภาพปอดและคัดกรองเบื้องต้นทั้งนี้ยกระดับการดูแลสุขภาพคนลำพูนให้มีประสิทธิภาพและเข้าถึงง่าย ขับเคลื่อนภายใต้โครงการต้นแบบ “ลำพูน สุขก๋าย สบายใจ๋” (Lamphun Healing Town) มุ่งพัฒนาย่านเมืองเก่าลำพูนให้เป็นพื้นที่แห่งความสุขกายสบายใจครอบคลุมทุกมิติ ทั้งสุขภาพ สิ่งแวดล้อม สังคม และเศรษฐกิจ
นายประภัสร์ ภู่เจริญ นายกเทศมนตรีเมืองลำพูน กล่าวว่า ปัจจุบันจังหวัดลำพูนได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ โดยลำพูนเป็นจังหวัดอันดับ 3 ของประเทศที่มีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุสูงที่สุด และมีอัตราผู้สูงอายุประมาณ 32% ขณะที่ลำพูนเป็นหนึ่งในจังหวัดภาคเหนือที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทำให้การคัดกรองโรคที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพปอดมีความสำคัญยิ่ง เทศบาลจึงร่วมกับภาคเอกชน
โดยบริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด (GSK) และ ลำพูน ซิตี้ แลป รวมถึงภาคประชาชน จัดกิจกรรม “ชาวหละปูนฮักปอด” พร้อมเปิด “สุขศาลา” ศูนย์สุขภาพชุมชนถนนรถแก้ว ภายใต้โครงการ “ลำพูน สุขก๋าย สบายใจ๋” (Lamphun Healing Town) ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญของการยกระดับการดูแลสุขภาพของชาวลำพูน รณรงค์สร้างความตระหนักรู้ในการดูแลสุขภาพเชิงรุก ส่งเสริมให้มีการตรวจสุขภาพปอดเป็นประจำ เพื่อลดผลกระทบด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนในระยะยาว
“การเปิดตัว “สุขศาลา” ศูนย์สุขภาพชุมชนถนนรถแก้ว เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “ลำพูน สุขก๋าย สบายใจ๋” (Lamphun Healing Town) ที่เทศบาลเมืองลำพูนริเริ่มตั้งแต่ปี 2566 โดยมีเป้าหมายในการยกระดับถนนรถแก้วเป็นพื้นที่ต้นแบบแห่งความสุขและสุขภาวะที่ดี ด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน โดย “สุขศาลา” จะมีบทบาทสำคัญในการดูแลสุขภาพเชิงรุกแก่ชาวลำพูน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ศูนย์สุขภาพนี้ให้บริการตรวจสมรรถภาพปอดและคัดกรองโรคระบบทางเดินหายใจ โดยมีบุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) คอยให้คำแนะนำและประเมินสุขภาพอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ชาวลำพูนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ ขอเชิญชวนชาวลำพูนทุกท่านเข้ารับบริการที่ “สุขศาลา” เพื่อดูแลสุขภาพปอดให้แข็งแรง พร้อมรับมือกับปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต” นายกเทศมนตรีเมืองลำพูน กล่าว
รศ. ดร.สิงห์ อินทรชูโต ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ลำพูน ซิตี้ แลป จำกัด กล่าวว่า "สุขศาลา” ในโครงการลำพูน สุขก๋าย สบายใจ๋ ถือเป็นสถานที่ให้บริการสุขภาพที่มีความใกล้ชิดกับผู้คนมานับแต่อดีต มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาระบบสุขภาพของสังคมไทยเช่นเดียวกับชาวจังหวัดลำพูน โดยทาง ลำพูน ซิตี้ แลป ได้ร่วมทำงานเชิงลึกกับนักออกแบบชุมชน เทศบาลลำพูน และทุกภาคส่วน รวมถึงประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ เพื่อพัฒนาและออกแบบพื้นที่ “สุขศาลา” ศูนย์สุขภาพชุมชนถนนรถแก้ว ตอบโจทย์การเข้ามาใช้บริการของประชาชน
โดยมีบริการทั้งหมด 3 ส่วน คือ 1) การให้ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพ 2) บริการตรวจสุขภาพโดยรวม และตรวจสมรรถภาพปอดเพื่อคัดกรองโรคเบื้องต้น และ 3) กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ นอกจากนี้ โครงการคำนึงถึงการปรับภูมิทัศน์เพื่อส่งเสริมระบบนิเวศน์ของย่านเมืองเก่าลำพูนให้สมบูรณ์และสวยงามยิ่งขึ้น ด้วยการนำศิลปะมาช่วยเยียวจิตใจ คงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ท้องถิ่นความเป็นล้านนา เพื่อให้ชาวลำพูนมีความสุขกายสบายใจ ตลอดจนสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือน
นางมาเรีย คริสติช กรรมการผู้จัดการ บริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด (GSK) กล่าวว่า GSK ในฐานะผู้นำด้านชีวเภสัช (Biopharma) มีเป้าหมายในการยกระดับสุขภาพ คุณภาพชีวิตของผู้คน และฟื้นฟูธรรมชาติ โดยเน้นหลัก ESG องค์รวม ในการดูแลสุขภาพของผู้คนและดูแลโลกให้น่าอยู่อย่างยั่งยืน (Healthier People, Healthier Planet) GSK เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ จากปัญหาคุณภาพอากาศของฝุ่น PM 2.5 ซึ่งเป็นมลพิษทางอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาพโดยตรงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจ จึงได้ร่วมมือกับเครือข่ายคลินิกโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย (EACC) และ ลำพูน ซิตี้ แลป จัดกิจกรรม “ชาวหละปูนฮักปอด” ภายใต้โครงการ “ลำพูน สุขก๋าย สบายใจ๋” (Lamphun Healing Town) ร่วมกับทางเทศบาลเมืองลำพูน เพื่อรณรงค์ให้ชุมชนตรวจสุขภาพและตรวจสมรรถภาพปอดอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง พร้อมส่งเสริมการพัฒนาสิ่งแวดล้อม ลดมลพิษทางอากาศ ร่วมปกป้องสุขภาพของประชาชนชาวลำพูนให้ห่างไกลโรค สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพและมีความสุข
รศ. นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ ประธานเครือข่ายคลินิกโรคหืดและปอดอุดกั้นเรื้อรังแบบง่าย (EACC) กล่าวว่า การตรวจคัดกรองสมรรถภาพปอดเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กับการตรวจคัดกรองโรคอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ เนื่องจากโรคทางเดินหายใจเรื้อรังมักมีการดำเนินโรคที่ยาวนานโดยไม่มีอาการในระยะแรก โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมีความเสี่ยงเกี่ยวกับสุขภาพปอดมากขึ้น ดังนั้นการตรวจสมรรถภาพปอดด้วยเครื่อง Peak Flow Meter จะช่วยให้สามารถพบภาวะปอดอุดกั้นหรือโรคหืดได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่อาการจะรุนแรง ป้องกันและลดความรุนแรงของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้สูงอายุและประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจเสมือนการป้องกันโรคไม่ติดต่ออื่น ๆ อีกทั้งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุขของจังหวัด
สำหรับ “สุขศาลา” ศูนย์สุขภาพชุมชนถนนรถแก้ว จะเปิดให้บริการทุกวันเสาร์ที่ 2 และ 4 ของเดือน ตั้งแต่เวลา 8.00-12.00 น. ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าใช้บริการได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ค่าฝุ่น PM 2.5 วันนี้ กทม. 70 พื้นที่จมฝุ่น พุ่งเกินเกณฑ์มาตรฐาน กระทบสุขภาพ
กรุงเทพฯ เริ่มหนาวแล้วอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศา แต่ฝุ่น PM2.5 เพียบ
คนไทยเฮ! ปี’68 แนวโน้มฝุ่น PM2.5 ลด สัญญาณบวก ปี’67 ลดแล้ว13%