svasdssvasds

วิกฤติแล้ว จำนวนสัตว์ป่าทั่วโลกลดลงกว่า 70% ใน 50 ปี

วิกฤติแล้ว จำนวนสัตว์ป่าทั่วโลกลดลงกว่า 70% ใน 50 ปี

องค์กรอนุรักษ์รายงาน ประชากรสัตว์ป่าทั่วโลกลดลงกว่า 70% ใกล้ถึงจุดที่ไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้อีก อาจถึงขั้นทำให้ระบบนิเวศล่มสลาย

จากรายงาน Living Planet ของ WWF และ Zoological Society of London หรือ ZSL ที่จัดทำขึ้นทุกสองปี ระบุว่า ประชากรสัตว์ป่าทั่วโลกมีจำนวนลดลงเฉลี่ยถึง 73% นับตั้งแต่ปี 1970 

วิกฤติแล้ว จำนวนสัตว์ป่าทั่วโลกลดลงกว่า 70% ใน 50 ปี

โดยละตินอเมริกาและแคริบเบียนมีการบันทึกจำนวนสัตว์ป่าลดลงโดยเฉลี่ยสูงสุดที่ 95% 
รองลงมาคือแอฟริกาที่ลดลง 76% 
และเอเชียและแปซิฟิกที่ 60% 
ยุโรปและอเมริกาค่อนข้างน้อยที่ 35% และ 39%

นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าการสูญเสียดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นในปีต่อๆ ไป เนื่องจากภาวะโลกร้อนเร่งตัวขึ้น ซึ่งเกิดจากจุดเปลี่ยนในป่าฝนอเมซอน อาร์กติก และระบบนิเวศทางทะเล ซึ่งอาจส่งผลร้ายแรงต่อธรรมชาติและสังคมมนุษย์

แมทธิว กูลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ZSL กล่าวถึงรายงานชิ้นล่าสุดว่า เรากำลังเข้าใกล้จุดเปลี่ยนสำคัญ ในการสูญเสียธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศระดับอันตราย แต่เขาเชื่อวว่าธรรมชาติสามารถฟื้นตัวได้ และเรายังมีโอกาสที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหานี้

วิกฤติแล้ว จำนวนสัตว์ป่าทั่วโลกลดลงกว่า 70% ใน 50 ปี

อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ายังไม่ใช่ชุดข้อมูลที่สมบูรณ์แบบ เนื่องจากมีการสุ่มตัวจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก ปลา สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก และสัตว์เลื้อยคลาน ราว 5,495 ชนิดทั่วโลกเท่านั้น จึงมองว่าควรมีการสุ่มตัวอย่างให้เป็นระบบที่ชัดเจนมากกว่านี้ แต่ก็ยังคงมีความเห็นที่ตรงกันว่าจำนวนสัตว์ป่าทั่วโลกกำลังลดลงจริง

ไมค์ บาร์เร็ตต์ ผู้อำนวยการด้านวิทยาศาสตร์และการอนุรักษ์ของ WWF กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงการใช้ที่ดินเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่ทำให้ประชากรสัตว์ป่าลดลง เนื่องจากพื้นที่เกษตรกรรมขยายตัว ซึ่งมักส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ เช่น ป่าฝนเขตร้อน ซึ่งรวมถึงการที่ประเทศต่างๆ เช่น สหราชอาณาจักร ได้เป็นตัวการที่ทำให้เกิดการทำลายล้างนี้ด้วยการนำเข้าอาหารและอาหารสัตว์ที่ปลูกในระบบนิเวศป่าดิบชื้นก่อนหน้านี้ด้วย