PETA กับ 9 ข้อเท็จจริง องค์กรสิทธิสัตว์ที่สุดโต่ง ที่มีปัญหากับ ‘หมูเด้ง’?

ในที่สุด ความดังของ หมูเด้งก็ไปเตะตา PETA องค์กรไม่แสวงผลกำไรด้านสิทธิสัตว์ของสหรัฐฯ จนได้ ซึ่ง PETA ได้ประกาศบอยคอต "สวนสัตว์เขาเขียว" ที่มีการใช้ประโยชน์น้องหมูเด้งเพื่อหาผลกำไร พร้อมลั่นว่า ฮิปโปต้องอยู่ในป่า ซึ่งทำให้ชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กลับ ว่า PETA มีนโยบายสุดโต่งเกินไปเช่นกัน

ทั้งนี้ PETA (People for the Ethical Treatment of Animals) เป็นองค์กรของสิทธิสัตว์ของสหรัฐฯ ที่ก่อตั้งขึ้น ในปี 1980 แม้จะไม่ใช่องค์กรด้านสิทธิสัตว์แห่งแรก แต่ชาวโลกรู้กันว่า PETA ขึ้นชื่อเรื่องการรณรงค์แบบสุดโต่งยิ่งกว่าใครเพื่อน เช่นการ จัดประท้วงเปลือยกาย การใช้สื่อลามกในโฆษณา ไปจนถึงการเขวี้ยงมูลสัตว์ใส่เหล่าคนมีชื่อเสียง ในโพสต์นี้ทีม SPRiNG จึงพามาดู 9 ความจริงสุดน่าเหลือเชื่อ ขององค์กรนี้กัน

9 ข้อเท็จจริงของ PETA

1. ต่อต้าน การดื่ม ‘นมวัว’

PETA ต่อต้านผลิตภัณฑ์จากนมอย่างจริงจัง โดยอ้างว่า ‘นมวัว’ เป็นเครื่องดื่มที่เหยียดเชื้อชาติ เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงอำนาจขาวมาอย่างยาวนาน เนื่องจาก ร่างกายของคนขาว สามารถทนต่อ ‘แลคโตส (Lactose) ’ หรือ น้ำตาลธรรมชาติในน้ำนม ในขณะคนที่ไม่ได้มีผิวขาวมีโอกาสที่จะแพ้ แลคโตส มากกว่า จึงทำให้อุตสาหกรรมนมสื่อถึงความโลภของคนผิวขาว และเป็นการใช้แรงงานวัวจนเข้าข่าย ทารุณสัตว์

2.การุณยฆาตสัตว์ ยิ่งกว่าองค์กรอื่น

คนที่ดูแลสัตว์เลี้ยงต่อไปไม่ไหว มักมองว่า ศูนย์พักพิงสัตว์ของ PETA คือที่พึ่งสุดท้าย เพราะองค์กรนี้น่าจะมีความ ‘ความกรุณาต่อ’ สัตว์ทุกชนิดที่สุด แต่ความจริงที่น่าตกใจคือ PETA มองว่าการุณยฆาตสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีบ้าน คือ ‘ความกรุณา’ ที่สุดแล้ว และพวกเขาทำในอัตราที่น่าตกใจ ถึง 70%-90% ของสัตว์ไร้ที่พึ่งในศูนย์ ซึ่งมากกว่าการทำการุณยฆาตของ ASPCA องค์กรสิทธิสัตว์ชื่อดังของสหรัฐฯ อีกแห่งเสียอีก และทาง PETA ก็เคยออกมาประกาศว่า "โครงการการุณยฆาตของเราไม่เคยเป็นความลับ นี่เป็นเพียงสิ่งหนึ่งในหลายๆ สิ่งที่เราทำเพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมานของสัตว์"

3.ทดสอบกับมนุษย์แทนสัตว์?

แม้จะเป็นที่ยอมรับในระดับสากลว่า การทดลองกับสัตว์คือสิ่งที่เลวร้าย แต่ทุกอย่างก็เพื่อการแพทย์ และทำวัคซีนช่วยชีวิตมนุษย์ แต่ PETA ต่อต้านเรื่องนี้ในทุกระดับ โดยพวกเขาแนะนำด้วยว่ามนุษย์คือตัวทดลองที่เหมาะสมกว่าสัตว์ และในเว็บไซต์ของ PETA ก็มีข้อความว่า “ปัญหาทางการแพทย์บางอย่าง อาจรักษาได้โดยการบังคับทดลองกับคน แต่เราไม่ได้ทำเพราะรู้ว่ามันจะผิด”

4.มีหุ้นในร้าน ฟาสต์ฟู้ด

มาถึงตรงนี้อาจจะคิดว่า PETA มีแต่แนวคิดสุดโต่ง ทว่าพวกเขาก็มีกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดอยู่บ้าง เพราะพวกเขาใช้เงินจำนวนมากซื้อหุ้นในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดและโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ชื่อดังในสหรัฐ เพื่อต่อรองให้เจ้าของธุรกิจเหล่านั้นยอมเพิ่มเมนูมังสวิรัติลงไปในร้านทุกสาขา รวมถึงให้โรงฆ่าสัตว์มีวิธีปลิดชีวิต ไก่ หมู วัว อย่างไม่ทรมาน โดยธุรกิจที่ PETA มีหุ้นอยู่ เช่น Safeway, Ruby Tuesday, Sonic, Burger King เป็นต้น

5. บริจาคขนสัตว์ให้คนจน

การรณรงค์ต่อต้านดื่มนมวัวอาจดูเกินไป แต่การรณรงค์ต่อต้านเสื้อผ้าขนสัตว์นั้น ได้รับการยอมรับ และมีนักเคลื่อนไหวมากมายนอกจาก PETA ที่ต่อสู้ในเรื่องนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะแสดงออกโดยการถือป้ายประท้วงในงานประกวดแฟชั่น แต่สำหรับพีต้า วิธี รณรงค์คือการ บริจาคขนสัตว์ให้กับคนไร้บ้าน วิธีดังกล่าวนอกจากจะได้ช่วยเหลือคนอื่นแล้ว ยังเป็นการลดทอนภาพลักษณ์เสื้อผ้าของชนชั้นสูงอีกด้วย เรียกว่า ยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว กันเลยทีเดียว

6. ผู้ร่วมก่อตั้ง บริจาค ‘ผิวหนัง’ ไปทำสินค้า

เป็นที่รู้กันว่า ‘อิงกริด นิวเคิร์ก (Ingrid Newkirk) ’ ผู้ร่วมก่อตั้ง PETA และเป็นผู้วางแผนโครงการแปลกประหลาดหลายอย่าง ได้ระบุในพินัยกรรมไว้ว่า หลังเสียชีวิต เธอเสนอให้ "ใช้" ร่างกายของเธอเหมือนกับสัตว์ ด้วยการนำหนังของเธอไปทำกระเป๋าแบรนด์เนม และนำดวงตาข้างหนึ่งของเธอไปมอบให้กับคนที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อม ส่วนร่างกายส่วนอื่นๆ ให้ตัดทิ้งและส่งไปทั่วโลก เพื่อให้เข้าใจถึงความทุกข์ทรมานของสัตว์

7. ใช้หนังโป๊ รณรงค์

PETA ใช้ภาพเปลือยของคนดัง โฆษณาสร้างความตระหนักรู้มาเป็นเวลานาน ในปี 2009 ช่อง NBC ถึงขั้นยกเลิกโฆษณา ของ PETA เนื่องจากมีภาพผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยกำลังทำอนาจารกับผัก ส่วนในปี 2012 PETA เปิดเว็บไซต์ลามก เพื่อหลอกให้คนหลงกดเข้ามาก่อนจะพบว่า ความโป๊เปลือยเป็นเพียงฉากหน้า เพราะเว็บไซต์เต็มไปด้วยภาพทารุณสัตว์เพื่อการรณรงค์

8 แบน ‘โปเกมอน’

PETA เป็นคู่กรณีกับอุตสาหกรรมวิดีโอเกมมาหลายปี ครั้งที่โด่งดังคือการพยายามบอยคอตเกม ‘Pokemon Black and White’ โดย PETA มองว่าเกมนี้สนับสนุนให้เด็กเสพติดความรุนแรงด้วยการนำสัตว์มาต่อสู้กัน คล้ายกีฬาทารุณสัตว์ ‘ไก่ชน’ ในโลกความจริง การต่อต้านนี้รุนแรงถึงขั้น PETA สร้างเกมล้อเลียนออกมาใชชื่อ ‘Pokemon Black and Blue’ ซึ่งเป็นเกมที่เน้นปลดปล่อยโปเกมอนให้เป็นอิสระแทน

9. ให้สัตว์เลี้ยงเป็นมังสวิรัติ

ที่แปลกประหลาดที่สุดคือ PETA อ้างว่าควรให้สุนัขและแมวกินอาหารมังสวิรัติ ทั้งๆ ที่พวกมันเป็นสัตว์กินเนื้อ โดยเฉพาะแมวที่ต้องมีโปรตีน ไขมัน และทอรีนในปริมาณมาก แม้ว่าพวกมันอาจมากินผักได้ในบางครั้ง แต่สุดท้ายสุขภาพของพวกมันจะย่ำแย่ลง หากไม่มีเนื้อสัตว์เข้าสู่ร่างกาย

ที่มา :listverse

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• น้องหมูเด้ง โผล่เกม Heyday ตัวละครสุดน่ารัก ดูแลได้ ไม่ต้องไปถึงเขาเขียว!  
• Party Animals เกมสุดปั่น สวมบท สัตว์โลกน่ารัก เอาชีวิตให้รอดเป็นคนสุดท้าย!
• ปรากฏการณ์ "หมูเด้ง" ฟีเวอร์ รู้จัก "ฮิปโปแคระ" ต่างจากฮิปโปทั่วไป อย่างไร