ไขปม "งูกัดตัวเอง" ที่ตลาดจตุจักร เกิดจากอะไร? ฟังเหตุผลจากนักอสรพิษวิทยา
ภายหลังเกิดเหตุสลดที่ตลาดศรีสมรัตน์ ภาพสัตว์เป็นร้อยตัวต้องสังเวยชีวิตกลางกองเพลิงสร้างความหดหู่ใจให้กับผู้คนที่พบเห็นเป็นวงกว้าง และภาพที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมากในขณะนี้คือ "งูกัดตัวเองตาย" เรื่องนี้จริงเท็จแค่ไหน
ทีมข่าวสปริงนิวส์ต่อสายหา “นิรุทธ์ ชมงาม” (นิค อสรพิษวิทยา) ประธานกลุ่มอสรพิษวิทยา ผู้เชี่ยวชาญทางด้านงู และเจ้าของเพจ Nick Wildlife เพื่อสอบถามถึงกรณี “งูกัดตัวเองตาย” จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ที่ตลาดศรีสมรัตน์ ที่ขณะนี้กำลังเป็นไวรัลอยู่บนโลกออนไลน์
“ขอแสดงความเสียใจกับทุกฝ่ายเป็นอย่างสูงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” นิค อสรพิษวิทยา กล่าว
นิค อสรพิษวิทยา ให้ข้อมูลว่า งูที่ปรากฏหราอยู่บนโซเชียลมีเดียในสภาพไหม้เกรียมนั้นคืองูสายพันธุ์ “คิง เสนค” (King Snake) ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ไม่มีพิษ รวมถึงงูส่วนใหญ่ที่ซื้อขายอยู่ในตลาดศรีสมรัตน์ส่วนใหญ่ก็ไม่มีพิษ
“งูกัดตัวเองตาย” เกิดจากอะไร?
คุณ นิค อสรพิษวิทยา เปิดเผยว่า งูไม่มีความคิดเรื่องฆ่าตัวตาย แต่นั่นคือสัญชาตญาณการเอาตัวรอด
“แม้จะมีความเชื่อว่างูมันฆ่าตัวตายเพราะทนไม่ไหว แต่ข้อเท็จจริงคืองูกำลังอยู่ในภาวะโคม่า หรือการที่งูอยู่ในภาวะใกล้จะตาย”
“เมื่ออยู่ในภาวะโคม่า พฤติกรรมของงูจะไม่ถูกสั่งการด้วยระบบประสาท พฤติกรรมที่เกิดขึ้นคือปฏิกิริยาที่ตอบสนองแบบเฉียบพลัน ยกตัวอย่างเช่น หากงูถูกรถทับใกล้ตาย เขาจะดิ้นทุรนทุราย จังหวะนี้ถ้ามีอะไรไปโดนปาก เขาจะกัดโดยอัตโนมัติ”
สำหรับกรณี “งูกัดตัวเองตาย” ในตลาดศรีสมรัตน์ คาดว่างูกำลังตกอยู่ภาวะโคม่า เพราะถูกรมควัน รู้สึกเจ็บปวดจากความร้อน และใกล้กลับดาวงูเต็มที ระหว่างนั้นเองงูก็ดิ้นทุรนทุรายตามสัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด ดิ้นไปดิ้นมาจนไปโดนปากตัวเอง ปฏิกิริยาที่ตอบสนองคืองูจะงับทันที
เผลอกัดจริง แต่ดึงออกไม่ได้เพราะฟันเป็นตะขอ
งูสายพันธุ์คิง เสนค ฟันมีลักษณะคล้ายตะขอ ฟันบนและฟันล่างงุ้มเข้า ดังนั้น เมื่อเผลองับฝังเขี้ยวลงไปที่ตัวเอง ด้วยลักษณะฟันแบบนี้จึงเป็นเรื่องยากที่จะดึงออก งูเลยติดอยู่ในสภาพกัดตัวเองจนตายแบบที่เราเห็นนั่นเอง
ดังนั้น กรณี “งูกัดตัวเองตาย” ได้ข้อสรุปคืองูไม่ได้กัดตัวเองตาย แต่เป็นผลมาจากสภาวะโคม่าที่เกิดขึ้นขณะกำลังถูกรมควัน และความร้อนจากเพลิงไหม้ ผสมรวมกับรูปลักษณะฟันที่งับแล้วดึงไม่ออกจนตายไปขณะที่ฟันยังงับลำตัวไว้อยู่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
