svasdssvasds

ลาก่อนเมืองใหญ่! ชวนท่อง ป่าสุขภาพ ไอเดียจากฟินแลนด์ ที่ฮีลใจคนมานักต่อนัก

ลาก่อนเมืองใหญ่! ชวนท่อง ป่าสุขภาพ ไอเดียจากฟินแลนด์ ที่ฮีลใจคนมานักต่อนัก

หลายคนต้องการ "ธรรมชาติบำบัด" สปริงท่องโลกไปที่ฟินแลนด์ และชวนรู้จัก ป่าสุขภาพ หรือ Health Forest ป่าในอุทยานแห่งชาติ Sipoonkorpi ที่มีไว้บำบัด และฮีลใจคนเมื่อมีอาการเจ็บป่วย และหัวใจไม่แข็งแรง

SHORT CUT

  • ปี 2024 ฟินแลนด์กลายเป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก (อีกแล้ว) แต่ขณะเดียวกัน คนในประเทศกลับถูกอากาศหนาวเล่นงาน ในแง่อารมณ์
  • Health Forest ธรรมชาติบำบัด ที่ฟินแลนด์ใช้ฮีลร่างกายและหัวใจของผู้ป่วย ขณะนี้กลายเป็นกิจกรรมยอดฮิตอย่างมาก
  • วิจัย เผย สภาพแวดล้อมที่เฟื่องไปด้วยป่าไม้ช่วยคลายความวิตกกังวล อาการนอนไม่หลับ หรือแม้กระทั่งทำให้ลืมความเจ็บปวด ทั้งทางกายหรือทางใจไปชั่วขณะ

หลายคนต้องการ "ธรรมชาติบำบัด" สปริงท่องโลกไปที่ฟินแลนด์ และชวนรู้จัก ป่าสุขภาพ หรือ Health Forest ป่าในอุทยานแห่งชาติ Sipoonkorpi ที่มีไว้บำบัด และฮีลใจคนเมื่อมีอาการเจ็บป่วย และหัวใจไม่แข็งแรง

จริงหรือที่ว่า...ยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้น หรือพอทำงานมานาน ๆ สิ่งที่โหยหาที่สุดกลับเป็นสิ่งที่ยิ่งเรียบง่าย ธรรมดา เช่น เสียงนกร้อง สายน้ำธารไหล หรือแม้กระทั่งต้นไม้ใบเขียวกลับกลายเป็นเครื่องชุบชูใจได้เสียอย่างนั้น

ช่างเป็นประโยคที่เฉิ่มเชยสุด ๆ ไปเลยว่าไหม...แต่แสดงความคิดเห็นกันหน่อยว่าคุณรู้สึกยังไงกับประเด็นนี้?

สปริงตั้งต้นจากไอเดียนี้ จากนั้นไปดูว่ามีประเทศใดบ้างที่ประชากรน่าจะต้องการธรรมชาติบำบัดมากที่สุด จึงพบว่า “ฟินแลนด์” เข้าเงื่อนไขทุกข้อ ทั้งในแง่สภาพอากาศ สังคม และไลฟ์สไตล์

ฟินแลนด์เจ้าของประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก

เรื่องก็คือว่า ปีนี้ (2024) ฟินแลนด์กลายเป็นประเทศที่มีความสุขมากที่สุดในโลก (อีกแล้ว) แต่อย่างที่สปริงเคยนำเสนอ อากาศหนาวเหน็บ ความเงียบงัน ท้องฟ้ามืดมิด หรือความสันโดษของคนในสังคมก็กลายเป็นอาวุธร้ายได้ เช่น คนฟินแลนด์ติดแอลกอฮอล์ เป็นโรคซึมเศร้า ร้ายแรงถึงขั้นตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง

ด้วยปัญหาที่กล่าวไปด้านบน ทำให้รัฐบาลฟินแลนด์งัดออกมาทุกกลยุทธ์เพื่อช่วยประชากรในประเทศให้หลุดพ้นจากอาการป่วย หรือความเศร้าโศกที่กำลังเผชิญอยู่ หนึ่งในกลยุทธ์นั้นคือการก่อตั้ง “Health Forest

Health Forest คืออะไร?

ย้อนกลับไปในปี 2015 รัฐบาลฟินแลนด์ได้จัดตั้ง “Health Forest” โดยมีจุดประสงค์คือ ต้องการให้ระบบนิเวศในธรรมชาติช่วยเยียวยาผู้ป่วย หรือใครก็ตามที่ร่างกายหรือจิตใจไม่ปกติ

ป่าสุขภาพแห่งนี้ อยู่ใน Sipoonkorpi อุทยานแห่งชาติซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองเฮลซิงกิ มีเนื้อที่ประมาณ 18.5 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใครที่ต้องการเข้าไปในอุทยานใช่ว่าจะเดินดุ่ม ๆ เข้าไปได้เลย แต่ทุกครั้งจะต้องมีไกด์คอยนำทาง หรือชี้แนะเรื่องธรรมชาติบำบัดไปพร้อม ๆ กัน

อุทยานแห่งชาติ Sipoonkorpi Credit ภาพ Wikepedia

Adela Pajunen นักชีววิทยา ผู้พัฒนากิจกรรมสำหรับผู้ป่วยในป่าสุขภาพ กล่าวว่า “เมื่อเข้าไปในป่า เราจะได้เฝ้าฟังเสียงสายน้ำธารไหล ดูเกล็ดหิมะร่วงหล่นลงพื้น ดูพืชพรรณ สรรพสัตว์ ก้อนหิน ดอกไม้ รวมถึงความเป็นไปของธรรมชาติ”

แต่ถึงตรงนี้ก็ยังนึกไม่ออกใช่ไหม ว่ามันช่วยฟื้นฟูร่างกายและสุขภาพจิตยังไง มหาวิทยาลัยเฮลซิงกิ ได้ตีพิมพ์การศึกษาออกมาหนึ่งชิ้น โดยเนื้อหาหลัก ๆ บอกว่าคนส่วนใหญ่ที่เข้าป่า รวม ๆ แล้วมีสุขภาพจิตดีขึ้น

ส่วนใหญ่บอกว่าชื่นชอบการเดินป่าที่สุด มันทำให้พวกเขาไม่เครียด แถมการได้มีเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยกัน ทำให้พวกเขารู้สึกใกล้ชิดกับผู้อื่น และผ่อนคลายมากขึ้น

ธรรมชาติบำบัด ดีจริงหรือ? Credit ภาพ Health Forest

เปิดเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ป่าไม้ช่วยฮีลใจได้จริงไหม?

ในแง่ภูมิศาสตร์ ฟินแลนด์ครอบคลุมไปด้วยป่าไม้ราว 75% ของประเทศ อีกทั้งยังเป็นตัวตั้งตัวตีในการศึกษาวิจัยเรื่อยประโยชน์ของต้นไม้ ที่มีต่อสุขภาพของมนุษย์ในหลาย ๆ เหลี่ยมมุม

เว็บไซต์ Euro News เปิดเผยว่า สภาพแวดล้อมที่เฟื่องไปด้วยป่าไม้ช่วยคลายความวิตกกังวล อาการนอนไม่หลับ หรือแม้กระทั่งทำให้ลืมความเจ็บปวด ทั้งทางกายหรือทางใจไปชั่วขณะ

Adela Pajunen ระบุในประเด็นนี้ว่า “ชาวฟินแลนด์มีความสุขมากกับการใช้เวลาในป่า พวกเขารู้สึกปลอดภัย และได้หลบซ่อนจากภาวะอะไรบางอย่าง”

ไอเดียนี้ไม่รู้ว่าในบริบทเมืองไทยสามารถทำได้แค่ไหน เพราะไม่แน่การเข้าป่าที่ประเทศไทยอาจเป็นเรื่องอันตรายมากกว่าฮีลหัวใจให้ใครได้ ใครชอบเดินป่ามาร่วมแชร์ความคิดเห็นกันหน่อย การเดินป่ามันสำคัญกับคุณยังไง มันช่วยคุณในแง่ไหนบ้าง สปริงรออ่านอยู่นะ

 

ที่มา: Euro News

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related