SHORT CUT
ค่าฝุ่นพิษเชียงใหม่ยังน่าเป็นห่วง ล่าสุดพุ่งสูงติดอันดับ 3 โลก ด้านนักท่องเที่ยวจีนแห่ผุดแฮชแท็ก "ฤดูหมอกควันเชียงใหม่" ขอโบกมือลาเชียงใหม่ ไว้จะมาใหม่ เพราะตอนนี้ทนปัญหาหมอกควันไม่ไหว
ยังคงน่าเป็นห่วงสำหรับสถานการณ์ฝุ่นพิษและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่กำลังวิกฤตหนักที่สุดในรอบปี โดยเมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านนมา ค่าฝุ่นพิษ PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ วิกฤต ติดอันดับ 1 ของโลก คุณภาพอากาศแย่มาก พุ่งระดับสีแดง
ล่าสุดวันนี้ 18 มี.ค. 2567 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” เมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 18 มีนาคม 2567 พบ
มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ อาทิ
ด้านเว็บไซต์ IQAir ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศ และมีการจัดอันดับหัวเมืองทั่วโลกที่มีมลพิษทางอากาศสูง รายงานว่า มลพิษทางอากาศจังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 18 มีนาคม 2567 เมื่อเวลา 10.20 น. ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 3 ค่า AQI อยู่ที่ระดับ 190
จากปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นใน จ.เชียงใหม่ เพจเฟซบุ๊ก อ้ายจง ที่เป็นเพจเล่าเรื่องเมืองจีน มีผู้ติดตามกว่า ผู้ติดตาม 2.8 แสน คน ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
โลกโซเชียลจีน เริ่มโพสต์รีวิวปัญหาหมอกควันเชียงใหม่ ผุดแฮชแท็ก "ฤดูหมอกควันเชียงใหม่"
"เสี่ยวหงซู” (小红书 Xiaohongshu) โซเชียลจีนด้านไลฟ์สไตล์ชื่อดังของจีน ที่คนจีนนิยมโพสต์เกี่ยวกับเที่ยวและชีวิตต่างประเทศรวมถึงเวลามาไทย ณ ตอนนี้มีโพสต์รีวิวจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับปัญหา "หมอกควันเชียงใหม่" และบางคนระบุว่า "ขอโบกมือลาเชียงใหม่ก่อน ไว้จะมาใหม่ เพราะตอนนี้ทนปัญหาหมอกควันไม่ไหว"
โดยแฮชแท็ก #มลพิษอากาศ ยอดดูมากกว่า 17 ล้านครั้ง
ปรากฏโพสต์ที่เกี่ยวกับเชียงใหม่จำนวนมากเหมือนกัน จากปกติที่จะมีโพสต์เกี่ยวกับจีนและที่อื่นๆ ขณะที่มีแฮชแท็ก "ฤดูหมอกควันเชียงใหม่" (清迈雾霾季) เกิดขึ้นโดยตรง ยอดดูเกือบ 50,000 ครั้ง
ถึงตอนนี้ยังไม่ใช่กระแสไวรัล แต่ถ้าเกิดปัญหาเรื้อรัง เกิดซ้ำๆ หนักขึ้นเรื่อยๆ ก็น่าจะส่งต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวได้ระยะยาวนะครับ
อากาศที่ดี ฟ้าใส ไร้ฝุ่นควัน ก็เป็นการสร้างการจดจำที่ดี หรือจะเอาไปเอี่ยวกับ Softpower ก็น่าจะไม่ติดนะครับ
ที่โพสต์เล่า มีจุดประสงค์เพื่อตีแผ่ปัญหา เพื่อที่เราจะได้แก้ไขอย่างจริงจังและยั่งยืนจริงๆ อ้ายจงขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่และทุกคนที่เกี่ยวข้องครับ
ดูแลสุขภาพด้วยนะครับทุกคน
ขอบคุณภาพ : เชียงใหม่นิวส์ Chiang Mai News ข่าวเชียงใหม่