SHORT CUT
เช็กสัญญาณอากาแพ้ฝุ่น PM 2.5 แสบจมูก แสบตา เลือดกำเดาไหล อย่าวางใจ ควรเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษสูง และสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น
ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 อยู่คู่กับประเทศไทยไม่หนีหายไปไหน ฝุ่น PM2.5 นั้นเรียกได้ว่าเป็นตัวบั่นทอนสุขภาพชีวิตและสุขภาพจิต ของใครหลายๆคน ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการป่วย ภูมิแพ้ คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม และโรคทางเดินหายใจ
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยผลสำรวจจากการเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพตนเอง จากปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ผ่านระบบ 4HealthPM2.5 พบว่าตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 67 ประชาชนส่วนใหญ่มีอาการคัดจมูก แสบจมูก แสบตา และบางรายถึงขั้นมีอาการเลือดกำเดาไหลในช่วงที่ฝุ่นมีปริมาณมาก ฝุ่นละอองอาจเป็นปัจจัยที่ไปกระตุ้นทำให้เกิดอาการอักเสบในเยื่อบุจมูกได้ เมื่อสัมผัสกับฝุ่นก็จะไปกระตุ้นให้โรคกำเริบ ทำให้เกิดการอักเสบ และทำให้เลือดฝอยบริเวณจมูกมีการอักเสบแตกง่าย จนกลายเป็นเลือดกำเดาไหล
ทั้งนี้กรมอนามัย แนะนำให้กลุ่มเสี่ยง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสฝุ่นและดูแลป้องกันตนเองเป็นพิเศษ หากมีอาการเลือดกำเดาไหลให้ก้มหน้าลง และให้ใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือ บีบปีกจมูกทั้งสองข้างให้แน่นเป็นเวลา 5-10 นาที โดยให้หายใจทางปากแทน เพื่อกดบริเวณด้านหน้าของผนังกั้นช่องจมูก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีเลือดออกบ่อยที่สุด อาจใช้น้ำแข็ง หรือผ้าเย็นประคบบริเวณจมูกด้านนอก ถ้ามีเลือดไหลลงคอ ให้บ้วนใส่ภาชนะเพื่อประเมินจำนวนเลือด และป้องกันการอาเจียน ถ้าเลือดยังไหลไม่หยุดหรือมีอาการหน้ามืดเป็นลม ควรรีบไปพบแพทย์ทันที
นอกจากนี้ ควรเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษสูง หากต้องออกนอกอาคาร ให้สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น และรีบกลับเข้ามาในอาคารทันทีเมื่อเสร็จภารกิจ ทั้งนี้ ขอความร่วมมือลดการก่อฝุ่นละออง โดยไม่เผาขยะ เผาการเกษตร ประชาชนและกลุ่มเสี่ยงสามารถประเมินอาการตนเอง และรับคำแนะนำเบื้องต้นได้ที่ 4HealthPM2.5