SHORT CUT
เมืองมิลาน ในแคว้น ลอมบาเดีย ของอิตาลี กำลังเผชิญกับมลภาวะทางอากาศอย่างหนัก ในช่วงที่ผ่านมา บางวันขึ้นไปติดท็อป 3 ของโลก ในแง่คุณภาพอากาศย่ำแย่ โดยประชาชนมีความจำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย และทำให้ทางการอิตาลี ต้องเร่งออกกฎแก้ฝุ่นควันเป็นการด่วน
สำนักข่าวยูโรนิวส์รายงานว่า อากาศที่แห้งและร้อนจัด ส่งผลทำให้ สถานการณ์ฝุ่นควันในอิตาลีเลวร้ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแคว้นลอมบาร์เดีย ซึ่งมีเมืองหลักคือมิลาน ทำให้ทางการท้องถิ่นต้องประกาศกฎระเบียบใหม่อันเข้มงวด เพื่อแก้ปัญหามลพิษทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมการใช้ฮีทเตอร์หรือเครื่องทำความร้อนตามบ้านเรือนประชาชน การปล่อยน้ำเสียลงสู่พื้นที่เพาะปลูก และการควบคุมการใช้ยานพาหนะขนาดใหญ่ในช่วงกลางวัน โดยนับจนถึงวันอังคารที่ผ่านมา มี 9 จากทั้งหมด 12 จังหวัดในแคว้นดังกล่าว รวมถึงมิลาน ที่ต้องอยู่ภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านฝุ่นควัน
รายงานระบุว่า จริงๆแล้วปัญหาด้านมลพิษทางอากาศเป็นเรื่องใหม่ของแคว้นลอมบาร์เดีย แต่เนื่องจากปริมาณฝนที่ลดลงและอากาศที่ร้อนผิดฤดูกาล ทำให้สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤตเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา และทำให้มิลาน ไปติดอันดับ 3 เมืองที่มีคุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดของโลก
อากาศที่ร้อนผิดปกติของอิตาลี แม้จะเป็นในช่วงฤดูหนาวและปริมาณฝนที่น้อยกว่าปกติ ส่งผลทำให้ปัญหาฝุ่นควันเลวร้ายยิ่งขึ้น ทำให้ทางการต้องประกาศใช้มาตรการชั่วคราวต่างๆเพื่อแก้ไขปัญหา นอกจากอิตาลีแล้ว หลายประเทศในแถบเมดิเตอเรเนียนก็ประสบปัญหาแห้งแล้วเช่นกัน
โดยทั้งหมดนี้ มันกลายมาเป็น “ความผิดปกติใหม่” หรือ New Normal ไปแล้วสำหรับภูมิภาคดังกล่าว โดยไม่มีการเคลื่อนไหวเพื่อแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่จริงจัง
ARPA หน่วยงานด้านการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมเปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้ว เดือนมกราคมยังพอมีฝนตกลงมาบ้างและลมอันอบอุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ ทำให้ปัญหามลพิษที่เกิดจากการจราจร เครื่องทำความร้อน การปล่อยน้ำเสียงในอุตสาหกรรมและการเกษตรไม่เลวร้ายขนาดนี้ในช่วงต้นปี
ทั้งนี้ เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท IQAir ซึ่งทำหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์คุณภาพอากาศทั่วโลก จัดอันดับให้คุณภาพอากาศของเมืองมิลานอยู่ในระดับที่เป็นไม่ผลดีต่อสุขภาพเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 สูงกว่าระดับที่องค์การอนามัยโลกแนะนำถึง 24 เท่า
และเมื่อวันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา มิลานกลายเป็นเมืองอันดับ 3 ของโลกที่มีคุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุด รองจากอันดับหนึ่งคือกรุงธากา ของบังกลาเทศ และอันดับสองคือเมืองลาฮอร์ ประเทศปากีสถาน
ที่มา euronews
ข่าวที่เกี่ยวข้อง