รู้หรือไม่? ตลาดดอกกุหลาบในไทย ร้อยละ 90 นำเข้ามาจากจีน และทำโลกร้อนได้ด้วย
เปิดเหตุผล ทำไมก่อนซื้อกุหลาบมอบให้หวานใจวันวาเลนไทน์ต้องตรวจสอบดี ๆ ว่ามาจากไหน เพราะเชื่อไหม? กุหลาบในตลาดไทย 90% นำเข้ามาจากจีน ซึ่งอาจทำให้โลกร้อนได้ด้วย
ดอกกุหลาบ คือดอกไม้ที่อาจเป็นของขวัญวันวาเลนไทน์ที่ง่ายที่สุดที่จะมอบให้กับคนที่เรารัก ราคาถูกกว่าเครื่องประดับและดีต่อสุขภาพกว่าช็อกโกแลต แต่รู้หรือไม่ กุหลาบส่วนใหญ่ในประเทศไทย มาจากการนำเข้าจากต่างประเทศ และกุหลาบวันวาเลนไทน์ทำให้โลกร้อนขึ้นได้ด้วย ทำไมจึงเป็นแบบนั้น?
ดอกกุหลาบในเมืองไทย ร้อยละ 90 มาจากจีน
ข้อมูลจากสถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง เผยว่า การคมนาคมระหว่างไทยจีนสะดวกมากขึ้นและรวดเร็ว ทำให้สินค้าคุณภาพดีส่งต่อถึงกันได้ไม่ยากนัก เช่นเดียวกับดอกกุหลาบจีนที่บุกตลาดไทย โดยดอกกุหลาบในเมืองไทยร้อยละ 90 มาจากจีน โดยมีต้นทางมาจากตลาดโต่วหนาน ในนครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ซึ่งเป็นตลาดดอกไม้สดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนเหมือนจะใหญ่ที่สุดในเอเชียด้วย
จีนครองตลาดดอกไม้ รายใหญ่ที่สุดในเอเชียและไม่เสียภาษีในไทย
ที่น่าทึ่งกว่าคือ บริษัทดอกไม้ต่าง ๆ ในยูนนานสามารถส่งดอกไม้มายังตลาดไทยได้โดยไม่เสียภาษี ข้อมูลจาก Lancang-Mekong Cooperation ปี 2022 และ Thaibiz China เผยว่า ดอกไม้ของยูนนานถูกส่งไปยังประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคใกล้เคียงกว่า 40 ประเทศ โดยมีมูลค่าการส่งออกแตะ 520 ล้านหยวน หรือราว ๆ 2,500 ล้านบาท ในปี 2021 ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งมีผลบังคับใช้ในไทยตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 นำมาซึ่งโอกาสใหม่ ๆ สำหรับการส่งออกดอกไม้ของมณฑลยูนนาน โดยเฉพาะการส่งออกมายังตลาดไทยโดยไม่ต้องเสียภาษี
เสียงผู้ประกอบการดอกกุหลาบไทย
เรียกได้ว่า การแข่งขันสูงมาก ๆ โดยเฉพาะในช่วงวันวาเลนไทน์แบบนี้ จากการสัมภาษณ์คุณนาเดียร์ หนึ่งในผู้ทำธุรกิจดอกกุหลาบในประเทศไทย คุณนาเดียร์เล่าว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่กุหลาบในไทยส่วนใหญ่นำเข้ามาจากประเทศจีน และในปัจจุบัน ดอกกุหลาบจากจีนมีคุณภาพดีกว่ามาก เนื่องจากสภาพอากาศบ้านเขาเหมาะสม และมีราคาที่ถูกลง จนคนไทยมีกำลังซื้อได้สบาย นั่นเลยทำให้คนไทยผู้ปลูกหรือค้าดอกกุหลาบลำบากมากขึ้น
นอกจากนี้ กุหลาบที่ปลูกภายในประเทศเอง เดี๋ยวนี้ ผู้ปลูกก็ออกมาทำการตลาดและขายเองแล้ว จึงไม่ค่อยพึ่งพ่อค้าหรือแม่ค้าคนกลางก็ได้ อีกทั้ง สภาพอากาศก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้การปลูกดอกไม้เมืองหนาวเพื่อแปลงเป็นผลิตภัณฑ์เศรษฐกิจทำได้ยากมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ดอกไม้จากต่างประเทศนั้น กำลังเต็มตลาดไทยไปหมด จึงอยากชวนให้คนไทยอุดหนุนกุหลาบภายในประเทศมากขึ้น ก็จะเป็นสิ่งที่สามารถช่วยเหลือเกษตรกรไทยได้
แล้วดอกกุหลาบทำโลกร้อนขึ้นยังไง?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ร้อยละ 90 ของดอกกุหลาบในไทยนำเข้ามาจากต่างประเทศ (ซึ่งส่วนหนึ่งก็ไม่ได้มาแค่จีน แต่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกลจะลาตินอเมริกาก็มี แต่ส่วนน้อย) ดังนั้น การขนส่งทางไกลคือปัจจัยหลักที่ทำให้โลกระอุมากขึ้น
หากคุณเลือกซื้อดอกไม้นำเข้าที่สวยงามราคาแพง ข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกลโดยเครื่องบินล่ะก็ เครื่องบินนี่แหละคือตัวการ เพราะการขนส่งโดยเครื่องบินเป็นแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกขนาดใหญ่
ในช่วงระยะเวลา 3 สัปดาห์ ทั้งก่อนและหลังช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ สภาระหว่างประเทศว่าด้วยการขนส่งประเมินว่า เที่ยวบินจัดส่งดอกไม้ดังกล่าวจะเผาผลาญเชื้อเพลิงได้ประมาณ 114 ล้านลิตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 360,000 ตันสู่ชั้นบรรยากาศ หรือบางรายงานบอกว่า ดอกกุหลาบที่ปลูกช่วงวาเลนไทน์ของสหรัฐอเมริกา ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 9,000 เมตริกตัน
แต่นั่นเป็นเคสกรณีตัวอย่างหากคุณสั่งดอกกุหลาบสุดหรูจากฝั่งอเมริกามาไทย แต่หากมองใกล้ตัวเข้ามาอีก การนำเข้าจากจีน แม้จะใกล้กันแค่นี้แต่ก็สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้เหมือนกัน
ดอกกุหลาบที่สวยงาม กว่าจะถึงประเทศไทยได้ต้องมีการรักษาอุณหภูมิระหว่างการขนส่ง โดยการแช่เย็นมาจากรถบรรทุกต้นทาง บนรถไฟ และรถบรรทุกปลายทางที่ขับส่งกระจายสินค้าไปทั่วประเทศ ซึ่งดอกไม้ส่วนใหญ่แทบจะไม่มีน้ำคอยหล่อเลี้ยงเลย แต่จะใช้วิธีการรักษาดอกไม้ด้วยอุณหภูมิ ความชื้น ส่วนผสมของออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์
นอกจากนี้ หากมองไปยังต้นทาง พื้นที่ปลูกดอกกุหลาบบางราย เลือกที่จะใช้ยาฆ่าแมลงและสารเคมี เพื่อคงดอกไม้ให้สดและสวยงาม ซึ่งวิธีการนี้อาจสร้างผลกระทบต่อแมลงและสัตว์ป่าท้องถิ่นได้ด้วย ยังไม่นับรวมกับขยะหีบห่อหรือบรรจุภัณฑ์ที่จะเกิดขึ้นในช่วงวาเลนไทน์นี้อีกนะ
โลกร้อนกระทบกุหลาบโลก
ยกตัวอย่างตลาดดอกกุหลาบในฝั่งอเมริกา ดอกกุหลาบในสหรัฐอเมริกาทั้งหมดถูกส่งตรงมาจากลาตินอเมริกา อาทิ โคลอมเบียและเอกวาดอร์ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกดอกไม้ตัดดอกรายใหญ่เป็นอันดับสองและสามของโลกรองจากเนเธอร์แลนด์
ปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลต่อการผลิตดอกกุหลาบที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการตลาด โดยเฉพาะในวันวาเลนไทน์ อเมริกาตอนกลางและตอนใต้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเผชิญหน้ากับสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้งทุบสถิติไปหลายครั้ง ทำให้กุหลาบแทบจะไม่ออกดอกเลย
วิธีแก้ไข ดอกกุหลาบทำโลกร้อน
หากเราไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่โลกร้อนดังกล่าว ก่อนอื่นเลย เราก็ต้องสนับสนุนสิ่งที่มีอยู่ใกล้ตัวให้ได้มากที่สุด เช่น ดอกกุหลาบที่ปลูกภายในประเทศไทยและดอกไม้ท้องถิ่นของไทย ที่ก็มีความหมายสื่อรักดีไม่แพ้ดอกกุหลาบ
จริง ๆ แล้ว ประเทศไทยของเราก็มีประสิทธิภาพในการปลูกดอกไม้เมืองหนาวให้เป็นดอกไม้เศรษฐกิจควบคู่กันไปได้ ขึ้นอยู่กับสภาพภูมิประเทศและอุณหภูมิ ส่วนมากพื้นที่ปลูกในประเทศไทยจะอยู่ทางภาคเหนือที่มีอากาศหนาวเย็น อาทิ เชียงใหม่ เชียงราย และตาก นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ปลูกเพิ่มเติมคือ นครปฐม สมุทรสาคร ราชบุรี และนนทบุรี
แม้อุตสาหกรรมดอกกุหลาบในประเทศไทยจะผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการตลาดไทยได้ไม่มากพอ แต่เราก็ยังมีตัวเลือกอีกมาก เช่น ดอกไม้ท้องถิ่นของไทยเราเอง อาทิ
- ดอกทองกวาว : ให้ความรักเรืองรองดั่งทอง อวยพรให้คนที่คุณรักเงินทองไหลมาเทมา
- ดอกจำปี : อวยพรให้คนรักเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การทำงาน
- ราชพฤกษ์ : คนในบ้านมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นทวีคูณ มีเกียรติมีศักดิ์ศรี
- ดอกลำดวน : ขอให้คุณมีอายุมั่นขวัญยืน
ที่มาข้อมูล
จากการสัมภาษณ์หนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมดอกกุหลาบในประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
