ใกล้วันตรุษจีน 2567 พามารู้จักผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับของเซ่นไหว้ อาทิ กระดาษเงินกระดาษทอง ควันธูปไหว้เจ้า ประทัดแดง ซึ่งอาจจะสามารถลด ละ หรือปรับไปใช้อุปกรณ์อื่นเพื่อลดการทำลายสิ่งแวดล้อม
วันตรุษจีน 2567 ที่ปีนี้ตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งธรรมเนียมหลักจะมีการตั้งโต๊ะสักการะเจ้าที่ และบรรพบุรุษ ซึ่งจะมีของไหว้จำพวก การเผากระดาษเงินกระดาษทอง, ควันธูป หรือการจุดประทัด นั้นส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร
ข้อมูลจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เผยผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากการจุดธูปและการเผากระดาษเงินกระดาษทองอาจทำให้เกิดควันที่มีสารมลพิษต่างๆ อาทิ สารพิษทางอากาศ ก๊าซเรือนกระจก และสารก่อมะเร็งรวมไปถึงสารโลหะหนัก 4 ชนิด ได้แก่ โครเมียม นิกเกิล ตะกั่ว และแมงกานีส ที่พบในขี้เถ้าธูปและขี้เถ้าของกระดาษเงินกระดาษทอง ซึ่งโลหะหนักข้างต้นคือองค์ประกอบหลักของฝุ่น PM2.5 ส่งผลให้มีปริมาณฝุ่นหนาแน่น ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม และเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารของคนและสัตว์ได้
ข้อมูลจาก นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ เผยว่าธูปหนึ่งดอกอาจเผาไหม้หมดในเวลา 20 นาทีแต่หลายครั้งมันก็สามารถส่งกลิ่นและควันได้นานถึง 3 วัน 3 คืน
รวมถึงส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อนเพราะควันธูป หรือควันจากการเผา จะก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไนโตรเจนไดออกไซด์ และมีเทน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของก๊าซเรือนกระจก "ทุกๆ 1 ตันของธูปจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเท่ากับ 1 ใน 3 ของน้ําหนักธูป หากปีๆ หนึ่งทั้งโลกมีคน จุด ธูปเป็นหมื่น ถึงแสนตันจะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และมีเทนออกมาเป็น จํานวนมหาศาล"
นอกจากนี้ยังมีผลกระทบเรื่องสุขภาพโดยเฉพาะประชาชน กลุ่มเสี่ยง ทั้งเด็กเล็ก สตรีมีครรภ์ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ โรคถุงลมปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคระบบหัวใจและ หลอดเลือด ควรระวังตัวเองอย่างมาก
ควรสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง
หรือใช้ผ้าชุบน้ำพอหมาดๆ ปิดปากปิดจมูก
เปลี่ยนไปใช้ธูปขนาดสั้นเพื่อให้เกิดควันระยะสั้น
ส่วนการเผากระดาษเงินกระดาษทอง ควรเผาทีละน้อยๆ และเผาในภาชนะที่มีฝาปิด
เมื่อเสร็จพิธีการสักการบูชาควรดับไฟด้วยน้ำ/ทราย ทันที ป้องกันการฟุ้งกระจายของควันและไอระเหยของสารพิษ
ภายหลังการสัมผัสควันธูปและกระดาษเงินกระดาษทองควรล้างมือ ล้างหน้า ล้างตาให้บ่อยขึ้น
ข่าวที่น่าสนใจ :