svasdssvasds

หลักฐานใหม่ พบ "คนโบราณ" อาศัยบนเขาพนมรุ้ง-เขาปลายบัด

หลักฐานใหม่ พบ "คนโบราณ" อาศัยบนเขาพนมรุ้ง-เขาปลายบัด

นักธรณีวิทยา จุฬาฯ พบหลักฐานใหม่ ก้อนหินบะซอลต์กระจายแบบสุ่ม และจัดวางอยู่เต็มพื้นที่ บนเขาพนมรุ้ง-เขาปลายบัด จ.บุรีรัมย์ บ่งชี้การอยู่อาศัยของคนโบราณ!

การค้นพบครั้งใหม่ บนเขาพนมรุ้ง-เขาปลายบัด

เขาพนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์  นับว่ามีความสำคัญตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพราะมีที่ตั้งของอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง โบราณสถานที่สำคัญ แสดงให้เห็นถึงการอยู่อาศัยของคนโบราณ จากข้อมูลทางธรณีวิทยา พบว่า เขาพนมรุ้งและเขาปลายบัด เป็นภูเขาไฟยุคควอเทอร์นารี เกิดจากการปะทุและไหลหลากของลาวาเมื่อประมาณ 1 ล้านปีก่อน เมื่อลาวาเย็นและแข็งตัวจะกลายเป็น หินบะซอลต์ (basalt) ซึ่งมีทั้งแบบ

  • บะซอลต์เนื้อแน่น (massive basalt)
  • บะซอลต์รูพรุน (vesicular basalt)
  • สคอเรีย (scoria) ที่มีรูพรุนมากคล้ายฟองน้ำ ซึ่งเกิดจากความแตกต่างของปริมาณก๊าซที่มีอยู่ในมวลลาวาและรายละเอียดทางธรณีวิทยาของการปะทุในแต่ละครั้ง 

แนวกองหินบะซอลต์ การค้นพบครั้งใหม่ บนเขาพนมรุ้ง-เขาปลายบัด

ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับคณาจารย์จากคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร สำรวจพบกองหินและแนวหินจำนวนมากบนเขาพนมรุ้ง-ปลายบัด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งในทางธรณีวิทยาแปลความหมายได้ว่า "ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นกิจกรรมของมนุษย์ในอดีต"

กลุ่มหินบะซอลต์ขนาดเท่าลูกฟุตบอล บนเขาพนมรุ้ง-เขาปลายบัด

กองหินบะซอลต์ ที่ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติ

จากการลงพื้นที่สำรวจทั้งเขาพนมรุ้งและเขาปลายบัด ศ.ดร.สันติ และทีมนักวิจัย พบว่า โดยธรรมชาติจะมีก้อนหินบะซอลต์หลากหลายขนาดกระจายแบบสุ่มอยู่เต็มพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ศ.ดร.สันติ ตั้งข้อสังเกตว่าในบางพื้นที่มีก้อนหินบะซอลต์กองรวมกันอยู่อย่างหนาแน่นเป็นชั้นๆ 2 – 3 ชั้น กองเป็นเนินขนาดเล็กบ้าง กองสูงท่วมหัวบ้าง

หินบะซอลต์

และในหลายๆ ที่ยังพบลักษณะคล้ายกับว่ามีการจัดวางและเรียงก้อนบะซอลต์เป็นแนวยาว 150 – 200 เมตร บนเขาปลายบัด หรือเป็นรูปทรงคร่าวๆ ซึ่งไม่เป็นไปตามธรรมชาติทางธรณีวิทยา นอกจากการกองรวมกันเป็นเนินเป็นแนวแล้ว อีกข้อสังเกตทางธรณีวิทยาที่น่าสนใจคือ

เนินหรือแนวมักจะเกิดจากการกองรวมกันของหินบะซอลต์ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน และเป็นขนาดพอเหมาะที่มนุษย์จะสามารถยกย้ายได้ อนุมานว่าก้อนหินบะซอลต์เหล่านี้อาจจะผ่านการคัดขนาดเป็นอย่างดี เพื่อให้เหมาะที่จะนำมาใช้หรือนำมากอง

นอกจากนี้กลุ่มหินบะซอลต์ในแต่ละเนินหรือแนวหินบะซอลต์ จะประกอบไปด้วยหินบะซอลต์หลากหลายเนื้อหิน ทั้งหินบะซอลต์เนื้อแน่น หินบะซอลต์รูพรุน รวมถึงหินสคอเรีย รวมกันอยู่ในเนินหรือแนวเดียวกัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในมิติทางธรณีวิทยา เนื่องจากเนื้อหินจะแตกต่างกันก็ต่อเมื่อเกิดจากการประทุของภูเขาไฟคนละเหตุการณ์ที่ไหลหลากกันคนละพื้นที่

กองหินบะซอลต์ที่วางตัวเป็นรูปตัว U บนเขาพนมรุ้ง-เขาปลายบัด

การจัดวางหิน เกิดจากฝีมือมนุษย์

การกองหินเป็นแนวนี้ จากการสืบค้นเชิงเอกสารในแหล่งโบราณคดีพื้นที่อื่น พบพฤติกรรมเช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่นในพื้นที่แหล่งโบราณคดีทางตอนเหนือของรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ศ.ดร.สันติ จึงสรุปว่า กองหรือแนวหินบะซอลต์ที่พบบนเขาพนมรุ้งและเขาปลายบัดเกิดจากกิจกรรมมนุษย์ที่คัดเลือกหินขนาดพอเหมาะ รวบรวมและเคลื่อนย้ายมาก่อรวมกัน เพื่อการก่อสร้างหรือเพื่อวัตถุประสงค์อะไรบางอย่าง นอกจากปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทเขาปลายบัด ๑ และ ปราสาทเขาปลายบัด ๒ ที่ตั้งอยู่บนยอดภูเขาแล้ว ภายในป่าพื้นที่โดยรอบบนเขาทั้งสองลูก ยังมีการใช้พื้นที่และอยู่อาศัยของคนในอดีตเช่นกัน

ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

รายชื่อทีมสำรวจบนเขาพนมรุ้ง-ปลายบัด : สันติ ภัยหลบลี้, กังวล คัชชิมา, สมบัติ มั่งมีสุขศิริ, อุเทน วงศ์สถิตย์, ปัญญา จารุศิริ, ปัญญา นากระโทก, จักรกริช อุดรพิมพ์, และ ตามศักดิ์ วงศ์มุนีวร

สภาพกองหินในแหล่งโบราณคดี ทางตอนเหนือของรัฐมิชิแกน

ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

related