กรมอุทยานฯพบกระต่ายบ้าน 15 ตัว เตือนประชาชนอย่าหาทำ หวั่นเกิดโรคระบาด

วันนี้ 27 สิงหาคม 2566 เจ้าหน้าที่อุทยานเขาอ่างฤาไน จ.ฉะเชิงเทรา เตือนประชาชนที่ละเมิดนำสัตว์เข้าพื้นที่ป่า จะมีความผิดทางกฎหมาย เร่งชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนและเพิ่มมาตรการป้องกัน หวั่นอาจเกิดโรคระบาดในสัตว์ได้

นายวีระพงษ์ โคระวัตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เปิดเผย เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เวลาประมาณ 10.00 น. ว่าเจ้าหน้าที่อุทยานฯได้พบเห็นกระต่ายบ้าน บริเวณถนนทางหลวง 3076 ก่อนเข้าสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน หมู่ที่ 25 ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า กระต่ายบ้านเหล่านี้ถูกลักลอบแอบนำมาปล่อยในพื้นที่ป่า เนื่องจากกระต่ายบ้านไม่ใช่สัตว์ที่มีถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• รู้จัก ! "ปลานกแก้วหัวโหนก" ปลาที่ใหญ่ และหายากที่สุด ในทะเลไทย

• ปารีสเตรียมแบนกิจกรรมให้เด็กขี่ม้าในสวนสาธารณะ ปกป้องสวัสดิภาพสัตว์

• ชมวิดีโอหายาก สลอธสู้กับแมวป่า ใครว่าสลอธเชื่องช้า!

หลังจากเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ได้เข้าตรวจสอบกระต่ายดังกล่าว พบกระต่ายบ้านกระจายอยู่ทั่วบริเวณสำนักงานเขตฯ จึงได้ทำการตามจับ โดยจับได้ทั้งสิ้น 15 ตัว และได้แจ้งต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่าตะเกียบไว้เป็นหลักฐานติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

อนึ่ง การนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาปล่อยในพื้นที่อนุรักษ์เป็นการกระทำที่มีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ฐาน “ปล่อยสัตว์ทุกชนิดเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามมาตรา 55 (6) และพระราชบัญญัติป้องกันทารุณกรรมและจัดการสวัสดิภาพ พ.ศ.2557 ฐาน “ปล่อยสัตว์ในพ้นจากการดูแลของตนโดยไม่มีเหตุอันสมควร” ตามมาตรา 23

• "วาฬโลลิต้า" วาฬออร์กาที่ถูกจองจำกว่า 50 ปี ตายก่อนได้รับการปล่อยตัว

• พาอัปเดตจำนวนประชากร “พะยูนไทย” ปัจจุบันเพิ่มขึ้น เป็น 273 ตัว

นอกจากนี้ การนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาปล่อยในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ไม่ได้ส่งผลดีกับพื้นที่และตัวของสัตว์แต่อย่างใด และอาจส่งผลกระทบรุนแรงมากกว่าที่คิด เนื่องจากสัตว์เลี้ยงที่ปล่อยออกมาอาจมีโรคภัยไข้เจ็บบางอย่างที่อาจทำให้สัตว์ในธรรมชาติล้มตาย หรือเกิดโรคระบาดในสัตว์ได้ และอาจเกิดกรณีการปนเปื้อนทางพันธุกรรมได้ หากมีการผสมพันธุ์ระหว่างกระต่ายบ้านกับกระต่ายป่าที่มีอยู่ในพื้นที่

ที่สำคัญมากกว่านั้น สัตว์บ้าน หรือสัตว์เลี้ยงของเราไม่เคยใช้ชีวิตในป่า หรือไม่สามารถเอาตัวรอดเองได้เมื่ออยู่ในป่าหรือสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ก็เท่ากับว่าปล่อยไปตาย หรือในทางกลับกันจากสาเหตุข้อแรกคือ สัตว์บ้านอาจได้รับเชื้อโรคจากสัตว์ป่าที่มีหลายชนิด ทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้เช่นเดียวกัน สุดท้ายไม่เกิดโรคระบาด ก็ต้องตายอยู่ดี เพราะไม่คุ้นชินกับระบบนิเวศป่า

อย่างไรก็ตาม สำหรับกระต่ายบ้านทั้ง 15 ตัวที่ถูกพบนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำออกนอกพื้นที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนแล้ว และกระต่ายจะเข้าไปอยู่ในความดูแลของเจ้าของใหม่ ซึ่งต้องรับภาระดูแลเพิ่มอีก 15 ชีวิต ที่เพิ่งจะตกลูกออกมาอีก ทั้งนี้ทางเขตฯจะได้เพิ่มมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้มีการนำสัตว์เลี้ยงมาปล่อยในพื้นที่ป่า ฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย และหากประชาชนพบเบาะแสการกระทำดังกล่าวแจ้งเข้ามาได้ที่สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มาข้อมูล

ประชาสัมพันธุ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุืพืช