ภาวะโลกเดือดแผลงฤทธิ์แล้ว ส่งผลทำให้แผ่นทะเลน้ำแข็งขนาดยักษ์ในขั้วโลกใต้ละลายแตกออกจากกัน ทำให้ลูกเพนกวินจักรพรรดิที่เพิ่งเกิดได้ไม่นานหนาวและจมน้ำตายนับหมื่นตัว
นักวิทยาศาสตร์เผยถึงสาเหตุของเหตุการณ์อันน่าเศร้าที่ลูกเพนกวินจักรพรรดิที่เพิ่งเกิดได้ไม่นาน จมน้ำและหนาวตายเป็นจำนวนมาก คาดว่าเกือบ 10,000 ตัว ส่วนสาเหตุนั้นมาจากสภาวะโลกเดือด โลกร้อนขึ้น ทำให้แผ่นทะเลน้ำแข็งขนาดยักษ์ในทวีปแอนตาร์กติกา ที่ขั้วโลกใต้ละลายเร็วขึ้นและแตกออกจากกัน ทำให้ลูกเพนกวินจักรพรรดิที่ยังไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ตายหลายพันตัว
เหตุการณ์การตายของลูกเพนกวินจักรพรรดิถูกจับภาพได้โดยภาพถ่ายดาวเทียม Sentinel-2 ซึ่งนักวิทยาศาสตร์แสดงความกังวลเป็นอย่างมากว่าเพนกวินจักรพรรดิจะสูญพันธุ์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 21 นอกจากนี้ สำนักงานสำรวจแอนตาร์กติกแห่งอังกฤษ (BAS) ได้เผยว่าเหตุการณ์นี้เป็นสัญลักษณ์ของหายนะที่มีผลพวงมาจากโลกร้อนขึ้น ซึ่งเหตุการณ์หลังจากนี้เป็นสิ่งที่เราต้องรับมือ
เนื้อหาที่น่าสนใจ :
STC-4 รถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ฝีมือคนไทย เตรียมลงแข่งบนเวทีระดับโลก
เชฟร้านญี่ปุ่นไม่ห่วง (เท่าใดนัก) ผลพวงปล่อยน้ำเปื้อนรังสีฟุกุชิมะ
“เอลนีโญ” ถล่มไทยแน่ ธ.ค. 66 นี้ เกษตร ท่องเที่ยว อุตสาหกรรม ระทึก !
ภาวะโลกร้อนทำให้แผ่นดินน้ำแข็งของทวีปแอนตาร์กติกาละลายเร็วกว่าปกติและหดตัวเล็กลง ซึ่งที่นี่เป็นถิ่นที่อยู่และเลี้ยงลูกของเพนกวินจักรพรรดิ หากแผ่นน้ำแข็งทวีปแอนตาร์กติกาอันเป็นที่อยู่ของเพนกวินมีขนาดเล็กลง จะส่งผลให้สัตว์ชนิดนี้ใช้ชีวิตได้ยากลำบากและลดจำนวนลง ดร.ปีเตอร์ เฟรตเวลล์ จากสำนักงานสำรวจแอนตาร์กติกแห่งอังกฤษ กล่าวว่า เราสามารถช่วยให้เพนกวินจักรพรรดิไม่สูญพันธุ์ได้ โดยการเร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุของโลกร้อน หากเราไม่ทำก็อาจทำให้เพนกวินจักรพรรดิหายไปจากโลก
โดยปกติแล้วเพนกวินจักรพรรดิผู้ใหญ่จะขึ้นไปอยู่ทะเลน้ำแข็งในช่วงเดือนมีนาคม ขณะที่ฤดูหนาวของซีกโลกใต้ใกล้เข้ามาเพนกวินเหล่านี้จะ ผสมพันธุ์ และใช้เวลาเลี้ยงลูกเป็นเวลาหลายเดือนจนลูกเพนกวินจักรพรรดิโตพอที่ไปเผชิญโลกกว้างได้ ซึ่งจะเป็นช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคม
ที่มา : BBC