1 กันยายนของทุกปี เป็นวัน สืบ นาคะเสถียร การจากไปของชายผู้พิทักษ์ป่าและสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และเป็นผู้อุทิศตนแก่สรรพสัตว์ทุกชีวิต กระสุนหนึ่งนัดที่ดังก้องกังวาลตลอดกาล
“เขาเป็นผู้นำ เขาทำไม่ได้คนอื่นก็จะไม่มั่นใจ แต่ถ้าผู้นำทำงานหนัก ทำงานที่ลำบาก ทุกคนจะตั้งใจทำงาน มีกำลังใจมากขึ้น หัวหน้าเสียสละได้ ทุกคนก็เสียสละได้… ผมภูมิใจนะที่ได้ทำงานกับเขา”
สัตว์หลายตัวต้องตายลงเพราะการสร้างเขื่อน พร้อมกับเสียงปืนที่ดังสนั่นทั่วป่าของนักล่าที่แฝงมาในคราบของนักจับปลา โครงการอพยพสัตว์ป่าสามารถช่วยชีวิตสัตว์ป่าได้ 1,364 ตัว ซึ่งเป็นจำนวนที่น่าพอใจแต่เทียบไม่ได้กับสัตว์อีกจำนวนมหาศาลที่จมน้ำตาย อดอาหารตาย จากการสร้างเขื่อนครั้งนี้ และสัตว์จำนวนหนึ่งที่ช่วยมาได้ก็ตายระหว่างการรักษาพยาบาล
เป็นเวลากว่า 34 ปีแล้วที่เสียงปืนในวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2533 ยังคงดังก้องกังวานมาจนถึงปัจจุบันในใจของคนรักป่าทุกคน สืบ นาคะเสถียร หรือ แดง ชายผู้อุทิศตนแก่ป่าไม้และสัตว์ป่าเพื่อแลกให้สังคมหันมาสนใจและให้ความสำคัญในการปกป้องผืนป่าและสัตว์ เขาแทบจะเป็นคนแรก ๆ ที่มองเห็นว่าธรรมชาตินั้นควรได้รับการปกป้องจากมนุษย์และมองเห็นความเจ้าเล่ห์ของผู้คนในสังคมที่ในยุคสมัยนั้นแทบจะไม่ใครคิดถึงเรื่องนี้กันเลย
เขามีผู้ร่วมอุดมการณ์มากมาย แต่ก็ไม่มีใครใจกล้าท้าชนได้เท่ากับเขา เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เป็นพื้นที่รับผิดชอบที่คุณสืบ ดูแลและดำรงตำแหน่งหัวหน้างานเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่นี่ ปัญหาที่เขามองเห็นตั้งแต่แรกของเรื่องสิ่งแวดล้อมคือการทำงานในหน่วยข้าราชการที่ไม่มีทรัพยากรในการดำเนินงานเพียงพอ การบุกรุกของผู้หวังผล และเขื่อน ที่เป็นตัวการหลักสร้างไฟ ให้ลุกโชนในดวงตาของเขา
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
บทเพลงเล่าชีวิต สืบ นาคะเสถียร ผ่านบทเพลง "สืบทอดเจตนา" จากแอ๊ด คาราบาว
รำลึก สืบ นาคะเสถียร 31 ปีผ่านไป ปัญหาสิ่งแวดล้อมไทย เปลี่ยนพอหรือยัง?
“นอกจากสัตว์ป่าที่น่าสงสารเหล่านี้จะต้องประสบภัยพิบัติจากน้ำท่วมแล้วยังต้องเผชิญกับมนุษย์ที่เห็นแก่ได้บนความทุกข์ยากของสัตว์ป่า ที่คอยจ้องไล่ล่าสัตว์ป่าเหล่านั้นโดยไม่สำนึกถึงบาปกรรม เสียงปืนที่ดังก้องกังวานอยู่ในหุบเขาของอ่างเก็บน้ำคลองแสง มันฉุดกระชากความรู้สึกของคนที่กำลังช่วยชีวิตสัตว์ป่า
วันหนึ่งเราได้พบซากสมเสร็จแต่คราบสีแดงสดอยู่บนพื้นดิน ประกอบกับส่วนเครื่องในที่ถูกโยนทิ้งพร้อมกับอุ้งตีนอีกสี่ข้างที่ถูกโยนลงน้ำ พวกเราออกค้นเรือทุกลำในคลองแสง หวังจะได้พบซากสมเสร็จตัวนั้น จนรุ่งเช้าของวันใหม่ก็ยังไม่พบ เราไม่ย่อท้อ ตามไปถึงที่สุดที่จะเล่นงานพวกใจทราม…ใต้ท้องเรือลำนั้น มืดและสกปรก เราฉายไฟกราด ใช้มือล้วงลงไปควานหาหลักฐานที่น่าสงสัย แล้วเราก็พบไส้สมเสร็จที่ยาวกว่าหนึ่งเมตรปนคราบน้ำมันหลงเหลืออยู่ใต้ท้องเรือ…”
เพราะปัญหามากมายที่มนุษย์ได้กระทำลงไปกับสัตว์ป่าเพื่อหวังผล และมันมากเกินกว่าที่เขาคิดว่า ชีวิตนี้เขาก็อยู่แก้ปัญหาทั้งหมดนี้ให้ไม่ได้ สุดท้ายคุณสืบ ก็ตัดสินใจที่จะจบชีวิตของตนเองลง เพื่อเรียกร้องให้สังคมเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และก็น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง ที่ผู้มีอุดมการณ์ยิ่งใหญ่คนนี้ จากไป แต่การจากไปของเขานั้นมีความหมาย หลายปีตั้งแต่ชื่อเสียงของเขาโด่งดังขึ้น เกิดความรู้สึกผิด เกิดความรู้สึกเห็นด้วย เศร้า ทุกข์และจุดประกายความรับผิดชอบในตัวใครหลายคนให้ลุกขึ้นมาปกป้องผืนป่า
ผลงานที่ผ่านมาของเขาได้สร้างความตระหนักให้กับเจ้าหน้าที่ได้มากที่เดียว ถ้าคุณรักสัตว์ป่ามากพอ คุณจะทำงานนี้ได้อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยเหมือนชายผู้นี้
ผลงานของเขามีคร่าว ๆ 14 ผลงานด้วยกัน
การจากไป ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย
32 ปีที่ผ่านมา ป่าไม้ก็ดำเนินงานสานต่อเจตนารมณ์ของเขามาโดยตลอด แต่นั่นยังไม่เพียงพอมากนัก เพราะปัญหาในปัจจุบันก็ยังสร้างความขัดแย้งอยู่มาก และจำนวนพื้นที่ป่าไม้ในไทยก็ยังขึ้น ๆ ลง ๆ อย่างไม่มั่นคงซะทีเดียว ยังมีการสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำ ถ้าคุณสืบยังอยู่ คงจะได้รับรู้ว่า ทุกวันนี้ป่าไม้ที่ท่านพยายามปกป้องบัดนี้มีปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นมากโข นั่นคือ ภาวะโลกร้อน และสัตว์ทุกตัวตกอยู่ในอันตรายเป็นแน่แท้แล้ว เพราะน้ำมือของมนุษย์เราเอง
หากเราเริ่มช่วยกันรักษาผืนป่าใกล้ตัวไว้ได้ และทุกคนคิดได้เหมือนกัน ว่าไม่ใช่หน้าที่ใดของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของเราในฐานะมนุษย์ทุกคน ก็คงดี Springnews ขอสดุดีผู้กล้าแห่งพงไพร 1 กันยายน สืบ นาคะเสถียร
พิเศษสำหรับปีนี้ มูลนิธิสืบนาคะเสถียร มีภารกิจดำเนินการจัดงานรำลึก สืบ นาคะเสถียรในรูปแบบกิจกรรมอีกครั้งตลอดทั้งเดือน โดยมีธีมงานว่า NO NATURE NO FUTURE “รำลึก 32 ปี สืบ นาคะเสถียร”
อ่านรายละเอียดกิจกรรมได้ที่ >>> รำลึก 32 ปี สืบ นาคะเสถียร
ที่มาข้อมูล
https://www.seub.or.th/seub/biography/seub-story-3/
https://www.seub.or.th/seub/biography/story