รำลึก สืบ นาคะเสถียร 31 ปีผ่านไป ปัญหาสิ่งแวดล้อมไทย เปลี่ยนพอหรือยัง?

หนึ่งในคำพูดของคุณ สืบ นาคเสถียร ที่ตราตรึงในหัวใจคนฟังและสังคมก่อนจากไป คือ
“ ผมขอพูดในนามของสัตว์ป่าทุกตัว เพราะพวกเขาพูดเพื่อตัวเองไม่ได้”

สืบ นาคเสถียร ทำอะไรบ้าง ?
       คนรุ่น 35 ปีอัพอาจทัน แต่น้อยกว่านั้นน่าจะเล็กมาก เกิดไม่ทันเห็นคุณสืบ หากย้อนกลับไป 31 ปี 1 ก.ย. 2533 เสียงปืนดังขึ้นกลางป่าห้วยขาแข้ง  จากการตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองของ สืบ นาคะเสถียร ในฐานะหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ชายผู้ทำงานแบบทุ่มสุดตัวแต่สุดท้าย เรื่องสิ่งแวดล้อมไทย ผู้มีอำนาจไม่ให้ความสนใจ ปลุกชีวิตคนนับล้านให้สนใจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

การจากไป ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย
- เกิดมูลนิธิ สืบ นาคะเสถียร
- ทำให้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรเเละห้วยขาแข้ง เป็นมรดกโลก  ปี 34
- ภาครัฐออกนโยบายเพื่อรักษาผืนป่า เช่น หยิบเอารูปแบบการจัดการของป่าทุ่งใหญ่ ไปจัดการดูแล ยังป่าตะวันตกข้างเคียงจนครบ อุดมสมบูรณ์ถึงปัจจุบัน
- เป็นแรงบันดาลใจให้ภาคประชาชน หันมาสนใจอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้น  

       แต่ชวนทุกคนคิด ตั้งคำถามว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เพียงพอหรือยัง? เพราะต่อให้เกิดองค์กรและนโยบายรักษ์ป่าต่างๆ แต่ถ้าคน 70 ล้านคน ยังไม่เปลี่ยน ยังไม่เข้าใจเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไทยอย่างจริงจัง มันก็ไม่มีพลังมากพอจะรักษา ผืนป่า และ สัตว์ป่า ไว้ได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• คำสั่งสุดท้าย จาก สืบ นาคะเสถียร นักอนุรักษ์ผู้เป็นแบบอย่าง
• สืบ นาคะเสถียร ประวัตินักอนุรักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ รำลึก 31 ปี วันที่ 1 กันยายน 2564
• “เกมกิ ช่างถ่ายภาพใต้ทะเล” กับ ความสุขในโลกใต้น้ำ

สรุปให้ 31 ปีผ่านไป ปัญหาสิ่งแวดล้อมไทยที่ยังมี

- ลักลอบล่าสัตว์ป่า
(โซเชียล ทำให้การค้าขายต่างๆง่ายขึ้น) ตำรวจมักพบขบวนการแอบค้าสัตว์ป่า เช่น ตัวนิ่ม ส่งออกไปประเทศจีน เพื่อทำยา หรือกินบำรุง

ข้อมูลจาก  ดร.ชวลิต วิทยานนท์
(นักวิชาการอิสระ ด้านความหลากหลายทางชีวิภาพ)
พูดเรื่อง สัตว์ป่าที่สูญพันธุ์จากสายตาเราไปแล้วมีมากมายจากฝีมือมนุษย์ เช่น
สมัน กวางเขาสวยสุดในโลก
กรูปรี 
เสือปลา และ ตัวนิ่ม
ซึ่งสองชนิดหลังอาศัยในป่าใกล้กรุง สุดท้ายสูญพันธุ์ เพราะถูกล่า และไม่มีการอนุรักษ์อย่างจริงจัง

- ปัญหาไฟป่า
ยังคงเกิดทุกปี ล่าสุดที่ป่าสะเมิง จ.เชียงใหม่เมื่อเดือน มี.ค. 64  ข้อมูลน่าตกใจจาก ส่วนควบคุมไฟป่า  กรมอุทยานแห่งชาติฯ ระบุ จากการเก็บสถิติไฟป่า ปี 2528 – 2542 พบ
" ไฟป่า 73,000 กว่าครั้ง เป็นไฟป่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเพียงแค่ 4 ครั้ง ที่เหลือล้วนเกิดจากน้ำมือมนุษย์ " เพียงเพื่อ หาของป่า, เผาไร่เตรียมดิน, แกล้งจุด, ประมาท, ล่าสัตว์, ไร่เลื่อนลอย ทั้งที่เกิดผลกระทบมากมาย แต่ก็ยังเผา ซึ่งเราจะแก้ไขปัญหานี้ร่วมกันได้อย่างไร และต้องช่วยกันทุกภาคส่วน?

- ตัดไม้ทำลายป่า ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วม

- มลพิษทางอากาศ  PM 10 และ PM 2.5 ที่เกิดจากมนุษย์ล้วน

       นี่แค่เฉพาะปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมในไทย ยังไม่รวมถึง ปัญหาสิ่งแวดล้อมใหญ่ระดับโลก ซึ่งมนุษย์ก่อขึ้น เพื่อทำร้ายมนุษย์และโลกด้วยกันเอง เช่น

- ภาวะโลกร้อน พูดกันมานาน จาก ขยะล้นโลกทั้ง พลาสติก อาหาร กำจัดไม่ดีลงทะเลทำสัตว์น้ำและปะการังตาย เกิดก๊าซพิษ เป็นสภาวะเรือนกระจก ส่งผลให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น น้ำแข็งขั่วโลกละลาย น้ำทะเลหนุนสูง กระทบหลายประเทศที่อาจจมน้ำในอนาคต รวมทั้งประเทศไทย

       ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เราเห็นภาพรวมให้เราถามตัวเองว่า สิ่งแวดล้อมไทย เปลี่ยนพอหรือยัง? ถ้ายังเราควรทำอะไรเพิ่มขึ้นได้บ้าง? หรือที่เรารำลึก ถึงคุณสืบ ทุกปี เราแค่พูด แต่แท้จริงเราเข้าใจถึงต้นตอของปัญหามากพอไหม? บางครั้ง การลงมือเพื่อเปลี่ยนโลก ช่วยสิ่งแวดล้อมอาจเป็นแค่เรื่องใกล้ตัว เช่น การลดการใช้พลาสติก การไม่ทานอาหารเหลือ การแยกขยะ เป็นต้น  เพราะ ถ้าคนไม่เปลี่ยน ปัญหาไม่มีวันหมด หรือต้องรอให้รุ่นลูก รุ่นหลานเรา พลีชีพเพื่อเรื่องนี้กันอีกครั้ง?