สรุปยอดจองรถยนต์ Motor Show 2025 ยอดรวมทะลุ 77,000 คัน BYD อันดับ 1
Motor Show 2025 สรุปยอดจองรถ BYD อันดับ 1 ยอดจองรวม 10,353 คันแซงหน้า Toyota แชมป์เก่า 9,819 คัน ซึ่งปีนี้อันดับ 3 เป็นค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนอย่าง GAC (AION/HYPTEC)
SHORT CUT
- BYD ผงาดขึ้นเบอร์ 1 โค่นแชมป์เก่า Toyota ยอดจองสูงสุดของ BYD (10,353 คัน) ที่แซงหน้า Toyota (9,819 คัน) ได้สำเร็จ ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์ สะท้อนการยอมรับในแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจีน และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของตลาดยานยนต์ไทย
- การที่ 3 ใน 4 อันดับแรก (BYD, GAC (AION/HYPTEC), Changan (Deepal/AVATR) และหลายแบรนด์ใน Top 10 เป็นแบรนด์จากจีน บ่งชี้ถึงการรุกคืบอย่างหนักและความสำเร็จของกลยุทธ์รถยนต์ไฟฟ้าจีน ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคไทยทั้งด้านราคา ฟีเจอร์ และดีไซน์
- ค่ายรถยนต์ดั้งเดิมกำลังเผชิญความท้าทาย โดยเฉพาะจากญี่ปุ่นและยุโรป ต้องเร่งปรับตัวและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าที่แข่งขันได้ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันไปให้ความสนใจ EV จีนมากขึ้น
Motor Show 2025 สรุปยอดจองรถ BYD อันดับ 1 ยอดจองรวม 10,353 คันแซงหน้า Toyota แชมป์เก่า 9,819 คัน ซึ่งปีนี้อันดับ 3 เป็นค่ายรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนอย่าง GAC (AION/HYPTEC)
บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 หรือ Motor Show 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 มีนาคม ถึง 6 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา
โดยตลอดระยะเวลาการจัดงาน มียอดจองรถยนต์รวมทั้งสิ้นสูงถึง 77,379 คัน สะท้อนให้เห็นถึงความคึกคักของตลาดรถยนต์ในประเทศไทย
สำหรับแบรนด์ที่มียอดจองสูงสุดในปีนี้ตกเป็นของ BYD ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง สามารถกวาดยอดจองไปได้ถึง 10,353 คัน ครองอันดับ 1 ไปอย่างขาดลอย
BYD Dolphin ลดราคา 1 แสนบาท กวาดยอดจองไปได้ถึง 4,014 คัน คิดเป็นสัดส่วนถึง 38.8% ของยอดจองทั้งหมดของแบรนด์ ด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย เริ่มต้นที่ 499,000 บาท
ตามมาด้วยอันดับ 2 คือ Toyota แชมป์เก่าที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างเหนียวแน่น ด้วยยอดจอง 9,819 คัน
ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ GAC (AION/HYPTEC) อีกหนึ่งแบรนด์จากจีนที่มาแรงไม่แพ้กัน ทำยอดจองไปได้ 7,018 คัน
AION UT คู่แข่งของ BYD Dolphin สงครามราคารุ่นเล็ก เริ่มต้นที่ 490,000 บาท ก็ได้ยอดจองไปกว่า 4,568 คัน คิดเป็นประมาณ 65.09% ของยอดจองทั้งหมด
สรุป 10 อันดับแรก ยอดจองรถยนต์ Motor Show 2025
BYD : 10,353 คัน
Toyota : 9,819 คัน
GAC (AION/HYPTEC) : 7,018 คัน
ChangAn (Deepal/AVATR) : 6,589 คัน
Honda : 5,948 คัน
MG : 5,910 คัน
GWM : 4,959 คัน
Mitsubishi : 4,398 คัน
Nissan : 3,139 คัน
Isuzu : 2,989 คัน
ยอดจองรวมกว่า 77,000 คัน ในงาน Motor Show 2025 แสดงให้เห็นถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคชาวไทยที่ยังคงมีอยู่ แม้จะเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจต่างๆ
นอกจากนี้ การเติบโตอย่างต่อเนื่องของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะจากประเทศจีน ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดรถยนต์ในปัจจุบัน และเป็นที่น่าจับตามองต่อไปในอนาคต
บทสรุปจากงาน Motor Show 2025 ครั้งนี้ เป็นมากกว่าแค่ตัวเลขยอดจอง แต่คือกระจกสะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดรถยนต์ไทยอย่างแท้จริง การรุกคืบอย่างหนักของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน
ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ โดยเฉพาะจากญี่ปุ่นและยุโรป กำลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
จำเป็นต้องเร่งปรับตัว พัฒนาผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าที่สามารถแข่งขันได้ทั้งในด้านราคา เทคโนโลยี และสร้างความแตกต่าง เพื่อรักษาฐานลูกค้าและส่วนแบ่งทางการตลาดในยุคเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า
ยอดจองที่แข็งแกร่งของรถยนต์ไฟฟ้าหลายแบรนด์ บ่งชี้ว่าตลาด EV ในประเทศไทยมีศักยภาพในการเติบโตสูง และจะเป็นสมรภูมิหลักของการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ต่อไป
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในงาน Motor Show 2025 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่ทุกค่ายรถยนต์ต้องจับตามองและวางกลยุทธ์อย่างรอบคอบ เพื่อรับมือกับการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่ทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
ที่มา : autolifethailand
