รู้ตัวไหม? เราได้เผชิญความร้อนระดับอันตรายนานถึง 6 สัปดาห์ในปีนี้

จากการวิเคราะห์ ของ World Weather Attribution (WWA) และ Climate Central พบว่า ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่มนุษย์ก่อขึ้นนั้นเลวร้ายกว่าที่คิด โดยเฉพาะกับผู้คนในพื้นที่เปราะบางต่อสภาพอากาศแปรปรวนอย่างหมู่เกาะแคริบเบียนและแปซิฟิก ที่ต้องทนทุกข์กับความร้อนที่เป็นอันตรายนานกว่าปกติถึงราว 150 วัน

ขณะที่ประเทศต่างๆ เกือบครึ่งหนึ่งของโลกต้องเผชิญกับอุณหภูมิที่เสี่ยงสูงอย่างน้อยสองเดือน แม้แต่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เช่น สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย มลพิษคาร์บอนจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลยังทำให้มีอุณหภูมิที่สูงขึ้นต่อเนื่องอีกสามสัปดาห์

หลายประเทศในเอเชีย เช่น อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ เผชิญกับความร้อนอันตรายเพิ่มขึ้นเป็นเวลา 122 วัน ส่วนในตะวันออกกลาง ชาวซาอุดิอาระเบียต้องทนทุกข์ทรมานกับอากาศร้อนเพิ่มขึ้นอีก 70 วัน ในปีที่มีผู้แสวงบุญฮัจญ์อย่างน้อย 1,300 รายเสียชีวิตจากอากาศที่ร้อนจัด

นอกจากนี้ประชากรกว่า 5,000 ล้านคน หรือเกือบ 2 ใน 3 ของประชากรโลก ก็ประสบกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างน้อย 2 เท่าจากภาวะโลกร้อน โดยเฉพาะในวันที่ 21 กรกฎาคม ซึ่งเป็นหนึ่งในวันที่ร้อนที่สุดของปี

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า สภาพอากาศเลวร้ายสุดขั้วตลอดปีนี้ แสดงให้เห็นว่าเราไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือกับภาวะโลกร้อนเท่าที่ควรจะเป็น หลายประเทศยังไม่ตระหนักรู้ถึงอันตรายของคลื่นความร้อนต่อชีวิตของผู้คน โดยสิ่งสำคัญคือเราต้องเร่งการปรับตัวเพื่อรับมือกับสภาพอากาศที่คาดว่าจะเลวร้ายกว่าเดิมในปี 2025 เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียไปมากกว่านี้