SHORT CUT
Volkswagen ปรับแผนการผลิตแบตเตอรี่ให้น้อยลง เนื่องจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าตกต่ำ ซึ่งคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากราคารถยนต์ไฟฟ้ายุโรปในปัจจุบันที่ยังไม่สามารถแข่งขันในด้านราคากับรถ EV จีนได้
Volkswagen กำลังเผชิญแรงกดดันด้านยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า ทำให้ต้องปรับแผนการผลิต ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทได้วางแผนโรงงานผลิตแบตเตอรี่ EV 6 แห่งของ Volkswagen จะดำเนินการภายในปี 2030 แต่ล่าสุดเนื่องจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าตกต่ำ จึงทำให้ต้องลดกำลังการผลิตของโรงงานแบตเตอรี่ให้น้อยลง
อย่างไรก็ตาม Volkswagen ได้จัดตั้งแผนกแบตเตอรี่ของตนเองที่มีชื่อว่า PowerCo และกำลังสร้างโรงงานแบตเตอรี่ขนาดใหญ่สามแห่งทั่วโลก วิธีการนี้สามารถทำให้ Volkswagen ควบคุมต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่ คุณภาพ และการพัฒนาเทคโนโลยีได้มากขึ้น ทำให้พวกเขามีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นในตลาดรถ EV
อย่างไรก็ตาม Volkswagen ยังคงให้ความสำคัญกับการขยายโรงงานเพื่อให้ถึงเป้าหมายเดิมของ บริษัทที่ต้องสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ที่มีกำลังการผลิต 200 gWh ต่อปี ภายในปี 2030 ซึ่งนับจากปีนี้คือ 6 ปีข้างหน้า
การผลิตแบตเตอรี่ของ Volkswagen จะเริ่มขึ้นที่โรงงานแห่งแรกในปี 2025 และโรงงานแห่งที่สองในปี 2026 นอกจากนี้ งานเบื้องต้นยังอยู่ระหว่างดำเนินการที่โรงงานแห่งที่สามในออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา
ส่วนแผนปัจจุบันคือสร้างโรงงานเพียงสามแห่งนี้เท่านั้นจากหกแห่งที่วางแผนไว้ในตอนแรก โรงงานเหล่านี้จะมีกำลังการผลิตรวมกัน 170 kWh
หากจำเป็น บริษัทยังสามารถขยายกำลังการผลิตในวาเลนเซียและออนแทรีโอได้เพื่อให้ได้กำลังการผลิตรวม 200 kW/h ภายในปี 2030 แต่แน่นอนว่าก็ขึ้นอยู่กับความต้องการ EV ที่ผันผวนในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าด้วย
ปัจจุบัน Volkswagen ยังคงไม่เปิดเผยข้อมูลว่าจะผลิตแบตเตอรี่ประเภทใด ได้แก่ ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (LFP) หรือ นิกเกิลแมงกานีสโคบอลต์ (NMC) โดยประเภทแรกมีราคาถูกกว่า จึงถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาถูกลง นอกจากนี้ Volkswagen ยังวางแผนจะผลิตและพัฒนาแบตเตอรี่แบบใหม่อย่าง Solid-State ด้วย
สถานการณ์รถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกกำลังดุเดือด ซึ่งปัจจุบันบริษัทจีนสามารถพัฒนาแบตเตอรี่ LFP มีราคาถูกกว่าทั่วโลก ซึ่งนี่คือข้อได้เปรียบด้านต้นทุนและมีความสำคัญสำหรับการทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงได้ง่าย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการครองส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด
ถึงแม้ว่า Volkswagen กำลังจะพัฒนาแบตเตอรี่โซลิดสเตท (Solid-State) ซึ่งมีระยะทางไกลขึ้นและชาร์จเร็วขึ้น แต่ก็ชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ยังคงมีความสำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการแข่งขันด้านราคากับคู่แข่งอย่างค่ายจีน
ที่มา : ArenaEV