EU ปรับภาษีรถ EV นำเข้าจีน มีผล 5 ปี ชี้อนาคตอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า

สหภาพยุโรป (EU) กำลังดำเนินการขั้นสุดท้ายในการบังคับใช้ภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า (EV) จากจีน โดยมีอัตราภาษีที่แตกต่างกันสำหรับผู้ผลิตแต่ละราย การตัดสินใจนี้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและบริษัทต่างๆ เช่น Tesla, BYD, Geely และบริษัทร่วมทุนอย่าง Spotlight Automotive ของ BMW-Great Wall

หลังจากการตรวจสอบการต่อต้านการอุดหนุน องค์กรยุโรปประกาศอัตราภาษีสุดท้ายสำหรับ EV จากจีน ซึ่งอยู่ระหว่าง 9% ถึง 36.3%

Tesla ได้รับอัตราภาษีต่ำสุดจาก 20.8 เหลือ 9% ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญเนื่องจากการร่วมมือและการตรวจสอบรายบุคคลตามการอุดหนุนที่ได้รับ

ผู้ผลิตจีนรายอื่นเผชิญกับภาษีที่สูงขึ้น: BYD จาก 17.4% เหลือ 17%, Geely จาก 19.9% เหลือ 19.3% และ SAIC จาก 37.9% เหลือ 36.3%

บริษัท 17 แห่งที่ร่วมมือซึ่งไม่มีอัตราภาษีรายบุคคลเผชิญกับภาษี 21.3% ในขณะที่หน่วยงานที่ไม่ร่วมมือเผชิญกับอัตราภาษีสูงสุดที่ 36.3%

บริษัทจีนมีเวลาสิบวันในการตอบสนองก่อนที่จะนำเสนอแผนต่อ 27 ประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปเพื่อลงคะแนนในเดือนตุลาคม หากได้รับการอนุมัติ ภาษีจะถูกบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน 2024 และมีผลบังคับใช้เป็นเวลาห้าปี โดยสามารถขยายเวลาได้

Spotlight Automotive ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง BMW และ Great Wall ที่ผลิตมินิไฟฟ้าเผชิญกับความไม่แน่นอนเนื่องจากไม่ร่วมมือในการตรวจสอบ ในทำนองเดียวกัน การผลิต Volkswagen ในอานฮุยก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน

 

Tesla สามารถได้รับอัตราภาษีใหม่ที่ 9% สำหรับรถยนต์ที่นำเข้าจากจีน ในขณะที่ก่อนหน้านี้ได้รับการพิจารณาภาษีสูงถึง 20.8%" ซึ่งเน้นย้ำถึงประโยชน์ที่สำคัญที่ Tesla ได้รับจากการร่วมมือกับการตรวจสอบ

ผู้ผลิตรถยนต์จีนมีเวลาสิบวันในการส่งความคิดเห็นไปยังองค์กรยุโรป ซึ่งบ่งชี้ถึงกรอบเวลาที่จำกัดสำหรับบริษัทจีนในการตอบสนองและอาจเจรจา

ยังคงมีคำถามบางอย่างเกี่ยวกับผู้ผลิตหลายราย โดยที่ใหญ่ที่สุดคือ Spotlight Automotive Limited ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง BMW และ Great Wall ซึ่งเน้นย้ำถึงความท้าทายที่บริษัทร่วมทุนเผชิญเนื่องจากภาษีที่ถูกบังคับใช้

ภาษีเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสหภาพยุโรปในการปกป้องตลาดยานยนต์จากสิ่งที่มองว่าเป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมเนื่องจากการอุดหนุนของจีน

ทำให้การปรับภาษีของ EU ครั้งนี้จะส่งผลทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนแข่งขันได้น้อยลงเมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตภายในสหภาพยุโรปหรือพันธมิตรประเทศอื่นๆ

ภาษีอาจสร้างโอกาสสำหรับผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าจากภูมิภาคอื่น เช่น เกาหลีใต้หรือญี่ปุ่น ซึ่งอาจสามารถเสนอราคาที่แข่งขันได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับแบรนด์จีนที่เผชิญกับภาษี

แม้ว่าภาษีเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อราคาและส่วนแบ่งตลาดของ EV จีนในยุโรป แต่ผลกระทบระยะยาวยังคงต้องติดตามสถานการณ์นี้ยังนำเสนอข้อได้เปรียบที่เป็นไปได้สำหรับ Tesla ซึ่งอาจใช้ประโยชน์จากอัตราภาษีที่ต่ำกว่าเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในยุโรปก็เป็นได้

สาเหตุที่ EU ปรับลดภาษีลง ก็เพื่อปกป้องผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในยุโรปจากสิ่งที่สหภาพยุโรปมองว่าเป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมเนื่องจากการอุดหนุนของจีน, กระตุ้นให้ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้าจีนตั้งโรงงานผลิตภายในสหภาพยุโรป เช่น Gigafactory ของ Tesla ในเยอรมนี เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี

ผลกระทบที่แท้จริงของภาษีอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ความต้องการของผู้บริโภคและการตอบสนองของผู้ผลิตรถยนต์

การบังคับใช้ภาษีเหล่านี้เป็นการพัฒนาที่สำคัญในตลาดยานยนต์ไฟฟ้าของยุโรป ปีต่อๆไปจะเผยให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ปรับโครงสร้างภูมิทัศน์การแข่งขันอย่างไร ส่งผลต่อทางเลือกของผู้บริโภค และอาจขับเคลื่อนการนวัตกรรมและการลงทุนเพิ่มเติมในภาคยานยนต์ไฟฟ้า

ที่มา : CarNewsChina