แคนาดาลงทุนเทคโนโลยี Carbon Capture เตรียมตั้งโรงงานดักจับคาร์บอนเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลก คาดช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในแคนาดาได้ 110 ล้านเหรียญสหรัฐ
หากใครจำกันได้เมื่อเดือนพฤษภาคม 67 ที่ผ่านมา ไอซ์แลนด์เปิดตัวโรงงานดักจับคาร์บอนที่ใหญ่สุดในโลก ชื่อว่า “แมมมอธ” โดยสามารถดักจับคาร์บอนได้ 36,000 ตันต่อปี หรือประมาณ 10 เท่าของ Deep Sky
โรงงานดักจับคาร์บอนของ Deep Sky ถูกนิยามว่าเป็นศูนย์นวัตกรรมดักจับคาร์บอนในอากาศ ซึ่งจะถูกดำเนินการเชิงพาณิชย์เป็นแห่งแรกของโลก โดยจะตั้งอยู่ที่เมืองอินนิสเฟล ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของรัฐอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา บนพื้นที่ 5 เอเคอร์ ใช้งบประมาณก่อสร้างราว 50 ล้านดอลลาร์
Deep Sky ระบุไว้บนเว็บไซต์บริษัทว่าโรงงานแห่งนี้สามารถดักจับคาร์บอนได้ 3,000 ตันต่อปี คำถามคือตัวเลขที่ว่านี้มันเรียกว่าน้อยหรือมาก เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ คือสามารถชดเชยการปล่อยคาร์บอนของชาวแคนาดาประมาณ 227 คนเท่านั้น ทั้งนี้ ชาวแคนาดามีปริมาณการปล่อยคาร์บอนต่อหัวราว 2.181 ตันคาร์บอนต่อคน
ทั้งนี้ Deep Sky เปิดเผยว่าโรงงานดักจับคาร์บอนแห่งนี้จะช่วยกระตุ้นการลงทุนได้มากถึง 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยโรงงานแห่งนี้สามารถรองรับเทคโนโลยีดักจับทางอากาศโดยตรง (Direct Air Capture หรือ DAC) ได้ทั้งหมด 10 เทคโนโลยี บริษัทเปิดเผยว่าปัจจุบันเตรียมการติดตั้ง DAC แล้วทั้งหมด 8 เทคโนโลยี จึงสามารถรองรับเพิ่มเติมได้อีก 2 เทคโนโลยี นอกจากนี้ยังมีพื้นที่สำหรับการขยายเพิ่มเติมในอนาคต
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายสูงสุดของ Deep Sky คือการสร้าง ‘คาร์บอนเครดิตที่มีความสมบูรณ์สูง’ ซึ่งเป็นโครงการระดับโลกที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อยู่เรื่อยมา เนื่องจากมีรายงานว่าคาร์บอนเครดิตหลายประเภทมากกว่า 90% ถูกทิ้งเสียเปล่า
และอาจทำให้ปัญหาการปล่อยคาร์บอนจากอุตสาหกรรมเลวร้ายลง ตัวอย่างเช่นสื่อดัง The Guardian ได้วิพากษ์วิจารณ์ผู้รับรองคาร์บอนเครดิตระดับโลกอย่าง Verra
ทั้งนี้ Deep Sky เปิดเผยว่าโรงงานของตนนั้น จะมีขั้นตอนการตรวจสอบคาร์บอนเครดิตตั้งแต่ต้นจนจบด้วยการวัด การรายงานและการตรวจสอบแบบดิจิทัล (Measurement, Reporting and Verification หรือ MRV) และได้รับการตรวจสอบตามมาตรฐานคาร์บอนที่เข้มงวดที่สุด
ที่มา: Deep Sky Climate
ข่าวที่เกี่ยวข้อง