ส่อง 5 บริษัทเอกชนผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ของไทย บริษัทไหน เป็นอย่างไร ?

ปัจจุบันมีบริษัทเอกผู้ผลิตไฟฟ้ามากมายที่ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้า และจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเข้ารัฐ เพื่อให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องนำกระแสไฟฟ้าไปจำหน่ายแจกจ่ายให้กับบ้านเรือน ประชาชน และภาคธุรกิจ ได้ใช้ไฟได้อย่างสว่างไสว ให้ชีวิตประจำวัน และภาคธุรกิจสามารถเดินเครื่องได้ โดยการผลิตไฟฟ้าก็จะมีพลังงานต่างๆ มากมายที่นำมาผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ไม่ว่าจะเป็น ก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน เขื่อนพลังน้ำ พลังงานหมุนเวียน ชีวมวล แสงอาทิตย์ ลม รวมถึงพลังงานอีกมากมาย และการรับซื้อจากต่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• 'โรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนผาจุก' แหล่งพลังงานงานหมุนเวียนแห่งใหม่ของไทย

• รู้จักโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่มีกำลังการผลิตติดตั้งใหญ่อันดับ 2 ของโลก

แน่นอนว่าการที่ประชากร และเศรษฐกิจขยายตัว ย่อมส่งผลทำให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้น รวมถึงสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นก็ทำให้ประชาชนมีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน จากการสำรวจ พบว่า ปัจจุบันไทยมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมทั้งประเทศอยู่ที่ประมาณ 42,000 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ยัง พบอีกว่า ในปี2566 ราคาพลังงานมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ค่าไฟฟ้าปี 66 จะทรงตัวระดับสูง สาเหตุมาจากราคาเชื้อเพลิงหลัก โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ ผันแปรตามราคาน้ำมัน อีกทั้งไทยยังต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติเหลวนำเข้าอีก  20% ที่มีราคาสูงมาก

วันนี้ #สปริงนิวส์ จะพามาส่องดู 5 บริษัทเอกชนผู้ผลิตไฟฟ้าของไทย บริษัทไหน เป็นอย่างไร  มาเริ่มกันที่

-บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ 

มีประมาณการกำลังการผลิต : 14,360 เมกะวัตต์ (ปี65)ประเภทโรงไฟฟ้า : ก๊าซน้ำมัน พลังานลม แสงอาทิตย์  นิวเคลียร์ ถ่านหิน พลังงานน้ำ โซลาร์ และอื่นๆอีกมากมาย โดยข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า บริษัทนี้สินทรัพย์รวม :418,171.96 ล้านบาท (ณ 31 ธ.ค.ปี65)

ทั้งนี้ GULF คาดว่าผลดำเนินงานในปี2566 กำไรจะเติบโตโดดเด่น จากการ COD ของโครงการโรงไฟฟ้า GPD ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ขณะที่ผลดำเนินงานไตรมาส 3/65 รับรู้กำไรจากการดำเนินงาน 2,167 ล้านบาท ลดลง 6% YoY เป็นผลจากราคาก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง

-บมจ.ราชกรุ๊ป

โดยบริษัทคาดการณ์กำลังการผลิตอยู่ที่ 518.66 เมกะวัตต์ (คาดปี67) ซึ่งโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ใช้ เชื้อเพลิงฟอสซิล พลังงานทดแทน โดยข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทนี้มีสินทรัพย์รวม :    229,578.28 ล้านบาท (ณ 31 ธ.ค.ปี65)

ทั้งนี้บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH ได้ประกาศกลยุทธ์ธุรกิจและเป้าหมายปี 2566-2570 ผ่านการดำเนินงานตาม 3S คือ Strength, Synergy, Sustaninability เพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายบริษัทจะมุ้งเน้นใน 4 ด้าน 1.ผลตอบแทนเติบโตอย่างมั่นคง 2.พัฒนาธุรกิจนอกภาคไฟฟ้า 3.เพิ่มกำลังการผลิตทดแทนเพิ่มลด GHG โดยมีเป้าหมายปี 66 ไม่น้อยกว่า 20% และปี 70 ไม่น้อยกว่า 25%4.พัฒนา ESG สู่มาตรฐานสากล

-บมจ.ผลิตไฟฟ้า

บริษัทมีกำลังการผลิตประมาณ  6,377 เมกะวัตต์ (ปี65) ซึ่งมีโรงไฟฟ้าที่ผลิตจาก ชีวมวล พลังงานน้ำ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ เซลล์เชื้อเพลิง และอื่นๆโดยข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทนี้สินทรัพย์รวม : 254,043.13 ล้านบาท (ณ 31 ธ.ค.ปี65)

-บมจ.โกลบอลเพาเวอร์ซินเนอร์ยี่  

บริษัทได้ออกมากคาดการณ์กำลังการผลิต : 7,102 เมกะวัตต์ (คาดปี66) ซึ่งบริษัทมีโรงไฟฟ้าที่ผลิตจาก  ก๊าซธรรมชาติ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังน้ำ และอื่นๆ โดยข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสินทรัพย์รวม : 288,810.09 ล้านบาท (ณ 31 ธ.ค.ปี65)

ทั้งนี้ GPSCปักธงเพิ่มการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 50% ปี 2573 พร้อมเผยแผนปี 25566 เดินหน้าผนึกพันธมิตรเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาด

-บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ บริษัทมีกำลังการผลิต :  3,338 เมกะวัตต์ โดยประเภทโรงไฟฟ้า คือ ก๊าซธรรมชาติ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังน้ำ พลังงานลม และอื่นๆ โดยข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยระบุสินทรัพย์รวม :170,650.72 ล้านบาท (ณ 31 ธ.ค.ปี65)

ทั้งนี้บริษัทย่อยและบริษัทร่วมทุนจำนวน 9 บริษัท ได้รับคัดเลือกเป็นผู้ผลิตและขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้กับรัฐบาลตามประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน ว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ FiT ระหว่างปีปี 2565 - 2573 สำหรับกลุ่มไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 และประกาศอื่นที่เกี่ยวข้อง คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 339.3 เมกะวัตต์ จำนวน 15 โครงการ โดยมีกำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบปี 2569-2573 จาก 9 บริษัทย่อยและบริษัทร่วมทุน