สหราชอาณาจักท้าทายโลกร้อน เปิดใบอนุญาตสำรวจน้ำมันและก๊าซฉบับใหม่

หากใครยังจำได้ เมื่อกลางปีที่ผ่านมามีขบวนประท้วงในสหราชอาณาจักรกรณีรัฐอนุญาตให้มีการเพิ่มโรงงานขุดเจาะเพื่อหาพลังงานฟอสซิล เป็นผลให้อุณหภูมิของโลกสูงขึ้น โดยผู้ประท้วงล้วนเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่กล่าวว่า ถ้าทำลายโลกด้วยพลังงานเหล่านี้ต่อไปเรื่อย ๆ เราจะไม่เหลืออะไรเลย ภายใต้ #LetTheEarthBreath

Dr. @CharlieJGardner explaining why scientists are engaging in non-violent civil disobedience.

"Fossil fuel companies have an anti-science agenda"#ScientistRebellion pic.twitter.com/8kPSGELYBr

— Scientist Rebellion (@ScientistRebel1) April 15, 2022

มาวันนี้สำนักข่าวต่างประเทศ (BBC) รายงานว่า สหราชอาณาจักรเปิดการ์ดใหม่ ไม่สนใจคำประท้วงเหล่านั้นแล้ว ด้วยการเปิดรอบออกใบอนุญาตใหม่สำหรับบริษัทต่าง ๆ เพื่อสำรวจหาน้ำมันและก๊าซในทะเลเหนือ มีการเสนอสถานที่เกือบ 900 แห่งสำหรับสำรวจโดยมีใบอนุญาตมากถึง 100 ใบ แน่นอนเลยว่าการตัดสินใจครั้งนี้ขัดแย้งกับการประท้วงของนักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศ ว่า โครงการเชื้อเพลิงฟอสซิลควรปิดตัวลงไม่ใช่ขยายออกไป

ปี 2021 ที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรเป็นกลุ่มประเทศที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม COP26 ในการหารือกับเหล่าผู้นำในแต่ละประเทศทั่วโลกว่าจะทำอย่างไรไม่ให้โลกมีอุณหภูมิไม่สูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียส  เพราะถ้าหากเกินตัวเลขนี้โลกจะเดินทางไปถึงจุดที่ไม่สามารถย้อนกลับมาแก้ไขได้แล้ว

ด้านที่ปรึกษารัฐบาลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กล่าวในรายงานเมื่อต้นปีว่า วิธีที่ดีที่สุดในการบรรเทาความเจ็บปวดของราคาพลังงานที่สูงขึ้นในกลุ่มผู้บริโภค คือการหยุดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลมากกว่าที่จะขุดเพิ่ม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• สรุปให้ #LetTheEarthBreath ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ เกิดอะไรขึ้น?

• IPCC ฉบับใหม่เผย มนุษยชาติกำลังล่มสลายจากภาวะโลกร้อน ต้องลงมือทำเดี๋ยวนี้

• อัพเดตอุณหภูมิโลก 141 ปีผ่านไป โลกร้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

• ทุบสถิติ! ขั้วโลกใต้ จุดเย็นที่สุด ร้อนขึ้น38 องศา °C ปัญหาโลกร้อนกำลังแย่

แต่ในทางกลับกัน รัฐได้อนูญาติให้มีการสำรวจหาแหล่งพลังงานเชื้อเพลิงเพิ่ม เพราะอะไรกัน?

เจคอบ รีส ม็อกก์ (Jacob Rees-Mogg) เลขานุการธุรกิจ กล่าวว่า เหตุผลที่รัฐออกใบอนุญาตนี้เพราะเชื่อว่า การสำรวจครั้งใหม่นี้จะช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศและเป็นการสนับสนุนงานฝีมือด้วย

นอกจากนี้ผู้สนับสนุนการสำรวจใหม่นี้ยืนยันว่า การทำแบบนี้สอดคล้องกับคำมั่นทางกฎหมายของรัฐบาลแน่นอนที่จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ภายในปี 2050 เชื้อเพลิงในทะเลทางเหนือจะมาแทนที่เชื้อเพลิงที่นำเข้า ดังนั้น วิธีนี้จุงลกการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ระหว่างกระบวนการผลิตและขนส่งได้

นายเจคอบยังเสริมอีกว่า “เพราะการบุกรุกอย่างผิดกฎหมายของปูตินในยูเครนทำให้เรากระตือรือร้นที่จะต้องใช้ทรัพยากรพลังงานของรัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด” ส่วนกระบวนการออกใบอนุญาตจะถูกติดตามอย่างรวดเร็วในส่วนของทะเลทางเหนืออยู่ใกล้กับโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่และมีศักยภาพที่จะพัฒนาได้อย่างรวดเร็วตามรายงานของ North Sea Transition Authority

ในด้านของผู้ประท้วง

แน่นอนว่าใบอนุญาตเหล่านี้ไม่ได้เป็นที่ยอมรับอย่างมากในหมู่นักวิทยาศาสตร์ พวกเขากล่าวว่า รัฐลืมเรื่อยงการเผาเชื้อเพลิงไปหรือเปล่า เพราะการเผาน้ำมันและก๊าซเพื่อมาเป็นพลังงานนี่แหละที่เป็นตัวปล่อยก๊าซเรือนกระจกมหาศาล

ทั้งนักรณรงค์และอุตสาหกรรมน้ำมันต่างเห็นพ้องกันว่าปริมาณสำรองนั้นไม่มากพอที่จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อราคาผู้บริโภคเพื่อใช้จ่ายค่าพลังงานภายในสหราชอาณาจักร

“นโยบายพลังงานของรัฐบาลนี้เป็นประโยชน์ต่อบริษัทเชื้อเพลิงฟอสซิลและไม่มีใครอื่น ใบอนุญาตน้ำมันและก๊าซใหม่จะไม่ลดราคาค่าพลังงานสำหรับครอบครัวที่ลำบากในฤดูหนาวนี้และไม่ได้ความมั่นคงด้านพลังงานในระยะกลาง” ฟิลิป อีแวนส์ นักรณรงค์การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานของกรีนพีซสหราชอาณาจักรกล่าว

การผลิตน้ำมันและก๊าซในทะเลเหนือถึงจุดสูงเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว และตั้งแต่นั้นมาสหราชอาณาจักรได้เปลี่ยนจากการผลิตน้ำมันและก๊าซเกินความจำเป็น มาเป็นการนำเข้าจากประเทศอื่น ๆ

Offshore Energies UK ซึ่งเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ กล่าวว่าอาจมีน้ำมันเหลืออยู่มากถึง 15 พันล้านบาร์เรลในทะเลเหนือ และมีการบอกว่าพื้นที่ใหม่จะมีการปล่อยมลมลพิษน้อยกว่าพื้นที่อื่นในช่วงเวลาที่ผ่านมา

ที่มาข้อมูล

https://www.bbc.com/news/science-environment-63163824