svasdssvasds

'ชาร์ลส์ ดาร์วิน' สะดุ้ง ! ถูกพ่นสีประท้วงโลกร้อน บนหลุมศพที่เวสต์มินสเตอร์

'ชาร์ลส์ ดาร์วิน' สะดุ้ง ! ถูกพ่นสีประท้วงโลกร้อน บนหลุมศพที่เวสต์มินสเตอร์

กลุ่มประท้วงโลกร้อน Just Stop Oil เริ่มแคมเปญแรกด้วยการพ่นสีสเปรย์บนหลุมศพ "ชาร์ลส์ ดาร์วิน" ที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นอังกฤษ งานนี้เสียงแตก...

ยกระดับมากขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับกลวิธี และท่วงท่าลีลาการประท้วงของกลุ่ม Just Stop Oil โดยเมื่อวันจันทร์ (13 ม.ค. 68) ช่วงเวลา 9 โมงครึ่ง ตามเวลาท้องถิ่นของสหราชอาณาจักร มีรายงานว่า 2 สมาชิก ได้พ่นสีสเปรย์คำว่า “1.5 is dead” บนหลุมศพ

สองคนดังกล่าวมีชื่อว่า Alson Lee วัย 66 ปี และ Di Bligh วัย 77 ปี โดยเธอทั้งสองนั้นเดินทางไปที่เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ กรุงลอนดอน และได้ทำการพ่นสีลงบนหลุมฝังศพของ “ชาร์ลส์ ดาร์วิน” นักธรรมชาติวิทยา ผู้คิดค้นทฤษฎีวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต

\'ชาร์ลส์ ดาร์วิน\' สะดุ้ง ! ถูกพ่นสีประท้วงโลกร้อน บนหลุมศพที่เวสต์มินสเตอร์

หากใครได้ติดตามการรายงานข่าว SPRiNG จะพบว่า นี่ไม่ใช่การพ่นสีครั้งแรกของกลุ่ม Just Stop Oil เพราะก่อนหน้านี้ กลุ่มนี้ได้กระจายสมาชิกไปทำการพ่นสีในสถานที่สำคัญมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพของ “แวนโก๊ะ” สาดซุปใส่ภาพวาด “โมนาลิซ่า” หรือแม้แต่พ่นสีใส่เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวของศิลปินหญิง "เทย์เลอร์ สวิฟต์”

ทางด้านของ Di Bligh เปิดเผยว่า “เราทำแบบนี้เพราะไม่มีหวังกับโลกใบนี้แล้ว เราเลือกหลุมศพของชาร์ลส์ ดาร์วิน เพราะเขาต้องเห็นด้วยกับเราแน่ ๆ กับการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่นี้ เขาจะไม่พอใจที่รัฐบาลเพิกเฉยแบบนี้แน่”

\'ชาร์ลส์ ดาร์วิน\' สะดุ้ง ! ถูกพ่นสีประท้วงโลกร้อน บนหลุมศพที่เวสต์มินสเตอร์

เบื้องต้น ตำรวจได้เข้าจับกุม Lee และ Bligh แล้ว และอาจมีการตั้งข้อหาอาชญกรรม โฆษกของโบสก์ออกมาเปิดเผยว่า โชคดีที่ไม่ได้เกิดความเสียหายใด ๆ และยังเปิดให้ผู้คนเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมมหาวิหารนี้อย่างปรกติ

ว่ากันในแง่เนื้อหา “1.5 is dead” ที่เธอทั้งสองพ่นลงไปบนหลุมศพของ “ชาร์ลส์ ดาร์วิน” หมายถึงอะไร  แปลเป็นไทยได้ว่า อุณหภูมิเฉลี่ยโลกมันเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาไปแล้ว

\'ชาร์ลส์ ดาร์วิน\' สะดุ้ง ! ถูกพ่นสีประท้วงโลกร้อน บนหลุมศพที่เวสต์มินสเตอร์

สิ่งนี้สอดคล้องกับสิ่งซึ่ง NASA และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโคเปอร์นิคัส (Copernicus Climate Change Service: C3S) ของสหภาพยุโรป (EU) ที่ยืนยันตรงกันว่า ปี 2024 เป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ และเป็นปีปฏิทินแรกที่อุณหภูมิเฉลี่ยโลกเกิน 1.5 องศา

 

ที่มา: CNN, The Guardian

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related