SHORT CUT
ไร้สัญญาณเตือน! วานูอาตูเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.3 เบื้องต้นพบผู้บาดเจ็บ 200 ราย และผู้เสียชีวิตอีก 14 ราย เป็นคนจีน 2 ราย หลายแห่งถูกตัดขาดไฟฟ้าและการสื่อสาร
“คนในวานูอาตูคุ้นเคยกับภัยพิบัติดี ปกติจะต้องได้ยินเสียงคล้ายเสียงกัมปนาทหรือเสียงคำรามลึก ๆ ที่บ่งบอกว่า แผ่นดินไหวกำลังมา แต่ครั้งนี้ไร้เสียงเตือนเหล่านั้น มีเพียงเสียงระเบิดกระทันหัน และทุกอย่างก็พังครืน ในขณะที่ผมกับภรรยากำลังเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส” เกร็น (Glen Craig) ประธานสภาความต่อเนื่องทางธุรกิจของวานูอาตู กล่าวกับ BBC
เมื่อวันอังคารที่ 17 ธ.ค. 2567 เวลา 12.47 น. ตามเวลาท้องถิ่น วานูอาตู ประเทศหมู่เกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศออสเตรเลีย ได้เผชิญหน้ากับแผ่นดินไหวขนาด 7.3 กระทันหัน
แผ่นดินไหววานูอาตูขนาด 7.3 ส่งผลให้อาคารบ้านเรือนเสียหายหลายหลัง ยานพาหนะถูกบดขยี้ เครือข่ายไฟฟ้าขัดข้องหลายแห่ง ทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างยากลำบาก และมีรายงานผู้บาดเจ็บ 200 ราย พร้อมผู้เสียชีวิตที่ยืนยันแล้วอีก 14 ราย โดย 2 คนในผู้เสียชีวิตเป็นชาวจีน
USGS หรือ สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาแห่งสหรัฐฯ ระบุว่า หลังจากวานูอาตูเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ระลอกหนึ่ง ก็เกิดอาฟเตอร์ช็อกอีก 14 ครั้ง ที่มีความรุนแรงตั้งแต่ 4 ริกเตอร์ขึ้นไป จึงทำให้เกิดดินถล่มใกล้กับท่าเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่พอร์ตวิลา แต่ยังไม่มีการแจ้งเตือนสึนามิ ต้องคอยเฝ้าระวังต่อไป
อนึ่ง วานูอาตู มีหมู่เกาะบริวารกว่า 80 เกาะ และมีผู้คนอาศัยอยู่ประมาณ 330,000 คน แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อประชาชนราว 116,000 สร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยประมาณ 1-10% ของ GDP วานูอาตู USGS กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายเกร็น ยังเสริมอีกว่า “แม้ว่าเราจะคุ้นเคยกับพายุเฮอริเคน ที่ทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น การขาดแคลนอาหาร แต่โดยปกติแล้ว เราไม่เคยมีผู้เสียชีวิตมากขนาดนี้เนื่องจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ดังนั้น การเสียชีวิตระดับนี้ ไม่ใช่เรื่องปกติสำหรับเรา”
“วานูอาตู เป็นหมู่เกาะที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่และภัยพิบัติทางธรรมชาติบ่อยครั้ง เคยติดเชื้อโควิด และเมื่อปีที่แล้วก็เพิ่งเจอพายุไซโคลน 3 ลูกพัดถล่ม ดังนั้น จึงหวังว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้จะเป็นเหตุการณ์สุดท้าย เราไม่อยากให้มันแย่ไปมากกว่านี้แล้ว”
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังระดมกำลังค้นหาผู้รอดชีวิต และจะเร่งฟื้นฟูไฟฟ้าและการช่วยเหลือให้เร็วที่สุด
ที่มาข้อมูล