SHORT CUT
การประชุมระดับรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียน เรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 19 ไทยรายงานผลฝุ่นละอองปี 2567 สามารถลดจำนวนจุดความร้อนได้ร้อยละ 21 และค่าเฉลี่ยปริมาณฝุ่น PM2.5 24 ชั่วโมง ลดลงร้อยละ 13 ลุยศูนย์ประสานงานอาเซียนควบคุมมลพิษ
ปัญหาฝุ่น PM2.5 ยังต้องเร่งแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความยั่งยืนให้ได้ทั้งในประเทศ และการแก้ไขปัญหาลพิษจากหมอกควันข้ามแดน จึงทำให้มีการประชุมระดับรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียน เรื่อง มลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 19 (COP - 19) เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 โดยมีนายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับมอบหมายจาก ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน
พร้อมกันนี้ได้ร่วมประชุมกับรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมอาเซียนสาธารณรัฐสิงคโปร์ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และผู้แทนรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อม ราชอาณาจักรกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม มาเลเซีย เนการาบรูไนดารุสซาลาม สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ รวม 9 ประเทศ ร่วมประชุม ณ โรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียน เรื่อง มลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 19 (COP - 19) ซึ่งเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของทุกประเทศในอาเซียนที่จะร่วมมือกันป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า ฝุ่นละออง รวมถึงหมอกควันข้ามแดน โดยมีผลการประชุมหรือข้อตกลงร่วมกันที่สำคัญ เกี่ยวกับกรอบการดำเนินงานติดตามตรวจสอบและประเมินผลโรดแมปอาเซียนปลอดหมอกควันฉบับที่2 ได้แก่
1) มอบหมายให้ศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อควบคุมมลพิษ จากหมอกควันข้ามแดน ร่วมกับสำนักเลขาธิการอาเซียนจัดทำรายงานความคืบหน้าประจำปี โดยจะให้มีการพัฒนาตัวชี้วัดเพื่อติดตามและประเมินผลในอนาคต เช่น ดัชนีพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ ดัชนีสภาพอากาศที่เกิดไฟไหม้ การประเมินปริมาณเชื้อเพลิง การวิเคราะห์ความถี่ในการลาดตระเวน
2) มอบหมายให้สำนักงานเลขาธิการอาเซียน จัดทำแนวทางการวิเคราะห์แผนที่การเผาไหม้เพื่อใช้ประเมินการบรรลุผลตามเป้าหมายของโรดแมปอาเซียนปลอดหมอกควันฉบับที่ 2(Guideline for Burned Area Mapping and Analysis for Achieving a Haze-Free Southeast Asia)
3) เห็นควรให้มีคณะทำงานพิจารณาแนวทางการดำเนินงานในการลดจุดความร้อนในพื้นที่พรุอาเซียนให้ได้ตามเป้าหมายร้อยละ 20
4) การพิจารณากลไกการติดตามการดำเนินงานภายใต้ ASEAN Investment Framework ซึ่งเป็นกลไกใหม่ที่ประเทศสมาชิกรับรองร่วมกันในปี 2566 ในการแสวงหาความร่วมมือจากภาคเอกชนในการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบผลการดำเนินงานหรือผลสำเร็จของประเทศไทย ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองในปี 2567 ซึ่งสามารถลดจำนวนจุดความร้อนได้ถึงร้อยละ 21 และค่าเฉลี่ยปริมาณฝุ่น PM2.5 24 ชั่วโมง ลดลงร้อยละ 13 รวมถึง การประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 เห็นชอบให้ประเทศไทยร่วมลงนามจัดตั้งศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อควบคุมมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศอยู่ระหว่างจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็มเพื่อการลงนามในข้อตกลงต่อไป
นายนราพัฒน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า จะขอความร่วมมือทุกประเทศมาแลกเปลี่ยน นำเทคโนโลยีมาแชร์กัน พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากเอกชนช่วยลดนำเข้าและส่งออกสินค้าที่เกิดจาการเผาด้วยการใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งมั่นใจว่าปี2568 ฝุ่น PM2.5 จะลดลงตามละดับ เนื่องจากสถิติที่ผ่านมาก็ลดลงเรื่อยๆ และจะพยายามทำให้ดีที่สุดให้เป็นไปตามเป้าหมาย2573 ทำให้ฝุ่นลดลงไปอีก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เดินหน้าลุย “โครงการคลินิกรถ ลดฝุ่น PM2.5” ให้ส่วนลดตรวจสภาพรถ รับมือควันดำ
ปลอดภัย! กทม. วันนี้อากาศดี ไม่มี "ฝุ่น PM2.5" มีเมฆบางส่วน แถมฝนเล็กน้อย
รัฐงัด 5 แผนงานสู้ไฟป่า -ฝุ่น PM2.5 ปี2568 มั่นใจฝุ่นพิษ ลดลง 25%