นักวิจัยชี้ สาเหตุที่เมืองใหญ่หลายแห่งทั่วโลกมีอากาศเย็นกว่าที่อื่น เพราะมลพิษหนาจนแสงแดดเข้าไม่ถึง นับเป็นสัญญาณอันตรายที่หลายคนไม่รู้ตัว
ขณะที่ทั่วโลกเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นผลจากภาวะโลกร้อน แต่งานวิจัยล่าสุดพบว่าการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิดังกล่าวนั้นมีความแตกต่างกันในบางพื้นที่ โดยเฉพาะเมืองที่มีประชากรหนาแน่นและมีความยากจนสูง เช่น มหานครอย่าง 'ไคโร' ของอียิปต์ และ 'มุมไบ' ของอินเดีย กลับร้อนขึ้นช้ากว่าเมืองใหญ่อื่นๆ ของโลก ซึ่งสาเหตุไม่ได้มาจากสิ่งแวดล้อมที่ดี แต่มาจากปริมาณฝุ่นควันมลพิษที่ปกคลุมเมืองอย่างหนาแน่นจนสะท้อนแสงอาทิตย์กลับออกไปสู่อวกาศ และทำให้พื้นที่ดังกล่าวมีอากาศเย็นลง
ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า นี่นับเป็นสัญญาณอันตราย เพราะอากาศเย็นที่เปิดขึ้นนั้นเป็นเพียงผลกระทบชั่วคราวจากมลพิษ ซึ่งไม่ต่างจากการบิดเบือนสมองให้ผู้คนในตัวเมืองไม่เห็นผลกระทบที่แท้จริงของภาวะโลกร้อนและไม่รีบปรับตัว ทั้งการสูดดมฝุ่นควันมลพิษในชีวิตประจำวันยังอันตรายต่อสุขภาพ เป็นสาเหตุของโรคร้ายแรง เช่น โรคปอด โรคหัวใจ และโรคระบบทางเดินหายใจ
นอกจากนี้ยังมีควาทกังวลว่า เมื่อรัฐบาลของประเทศต่างๆ สามารถกำหนดนโยบายเพื่อขจัดมลพิษได้แล้ว หากในอนาคตเมืองใหญ่ดังกล่าวกลับมามีอากาศที่แจ่มใสขึ้น ประชากรที่เปราะบางจะได้รับอันตรายมากกว่าปกติจากความร้อนที่พวกเขาไม่คุ้นเคย โดยเฉพาะกลุ่มคนยากจนซึ่งไม่สามารถเข้าถึงเครื่องปรับอากาศราคาแพงได้ และแรงงานที่ต้องทำงานกลางแจ้ง
เมื่อปีที่แล้ว โลกได้ปล่อยมลพิษเกินเป้าหมายที่กำหนดไว้ในข้อตกลงปารีสปี 2558 และกำลังจะบรรลุเป้าหมายเดียวกันในปีนี้ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต่างออกมาแสดงความกังวลกันมากขึ้นเพื่อกดดันให้รัฐบาลและเอกชนทั่วโลกเร่งลดการปล่อยคาร์บอนอย่างจริงจังมากกว่าเดิม เพื่อรับมือกับคลื่นความร้อนและสภาพอากาศเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต