SHORT CUT
ญี่ปุ่นมีรายงานที่สร้างความกังวลใจ เมื่อ 'หิมะแรก' ของภูเขาไฟฟูจิ ที่ควรจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นเดือนตุลาคม กลับยังไม่มาให้เห็น และนับเป็นการทำลายสถิติปีที่หิมะแรกมาช้าที่สุด ในรอบ 130 ปี
สำหรับนักท่องเที่ยวหรือแม้แต่ชาวญี่ปุ่นเอง สิ่งที่คาดหวังว่าจะได้เห็นเพื่อตอกย้ำถึงเอกลักษณ์ด้านแหล่งท่องเที่ยวของญี่ปุ่น ก็คือภาพของ "ภูเขาไฟฟูจิ" ที่ถูกปกคลุมด้วยหมวกหิมะสีขาวโพลนบนยอดเขา ซึ่งมักจะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม แต่ในปีนี้กลับต่างออกไป
โดยเฉลี่ยแล้วหิมะแรกของภูเขาไฟฟูจิ มักจะเริ่มขึ้นในช่วงวันที่ 2 ตุลาคม เมื่อปีก่อนเริ่มช้าเล็กน้อยในวันที่ 5 ขณะที่ปีนี้หลายคนเริ่งแสดงความกังวลใจที่หิมะตกล่าช้านานกว่า 20 วันแล้ว โดยรายงานของหอสังเกตการณ์อุตุนิยมวิทยาโคฟุ ระบุว่า หิมะแรกจะล่าช้าออกไป เนื่องจากความร้อนและอุณหภูมิที่สูงขึ้นในเดือนกันยายนและตุลาคม
หลังมีการเฝ้าจับตาอย่างใกล้ชิดนานหลายสัปดาห์ ในช่วงเช้าวันที่ 27 ต.ค. สำนักข่าวท้องถิ่นของญี่ปุ่นมีรายงานว่า 'หิมะแรก' ของภูเขาไฟฟูจิ ยังคงไม่ถูกพบเห็น ซึ่งนับเป็นการทำลายสถิติหิมะแรกที่มาช้าที่สุดในรอบ 130 ปี หลังสถิติก่อนหน้านี้ถูกบันทึกไว้ในวันที่ 26 ต.ค. ในปี พ.ศ. 2559 และ พ.ศ. 2498
แม้ว่าอุณหภูมิบนยอดเขาฟูจิจะลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็งตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนสภาพอากาศที่แปรปรวนมากกว่าปกติในปีนี้ จะส่งผลให้เกิดความคลาดเคลื่อนของจังหวะเวลาที่ความกดอากาศรวมถึงอุณหภูมิที่ลดลงจะก่อให้เกิดหิมะบนยอดเขา และตามหลักแล้วแม้จะมีหิมะตกเล็กน้อย แต่หากไม่สามารถมองเห็นหรือยืนยันจากหอสังเกตุการณ์ ก็ไม่สามารถนับว่าเป็นหิมะแรกได้
คาดการณ์ 'หิมะแรก' ของภูเขาไฟฟูจิ จะมาวันไหนกันแน่
จากรายงานสภาพอากาศมีการคาดการณ์ว่า ในคืนวันจันทร์ ที่ 28 ต.ค. จะมีฝนตกบริเวณภูเขาไฟฟูจิ เนื่องจากอิทธิพลของหน้าฝนในฤดูใบไม้ร่วง อุณหภูมิต่ำสุดใกล้ยอดเขาคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 0 องศาฯ แต่แม้ว่าหิมะจะมีหิมะตก ก็ไม่แน่ใจว่าจะสะสมมากพอที่จะเห็นเป็นหมวกหิมะบนยอดเขาหรือไม่
ยังต้องรอสังเกตุการณ์ถึงวันที่ 5 พ.ย. ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวจะได้รับผลกระทบจากอากาศเย็นมากขึ้น หากมีฝนตก ก็มีโอกาสสูงที่หิมะจะปกคลุมพื้นที่ และสุดท้ายหากสภาพอากาศแจ่มใสขึ้นหลังจากหิมะสะสมและทัศนวิสัยดีขึ้น ก็ดูเหมือนว่าในที่สุดชาวญี่ปุ่นก็จะได้เห็นหมวกหิมะผืนแรกของปีนี้แล้ว