ดร.เดบรา เฮนดริกสัน กุมารแพทย์ชาวอเมริกัน เปิดตัวหนังสือที่มีชื่อว่า In The Air They Breathe: A Pediatrician on the Frontlines of Climate Change ซึ่งอธิบายว่า ทำไมปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศจึงทำให้เด็กป่วย และผู้ปกครอง รวมถึงคุณครูสามารถทำให้เด็ก ๆ ปลอดภัยได้อย่างไร
ในโรงเรียนหลายแห่งของสหรัฐฯ รวมถึงพื้นที่อื่นของโลก ปัญหาหลักที่เด็กๆเจอจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศคือ อากาศร้อนขึ้น ซึ่งความร้อนส่งผลทำให้เด็กๆเรียนรู้และเข้าใจเนื้อหาได้ยากขึ้น ถ้าหากว่าห้องเรียนมีเครื่องปรับอากาศก็จะดี แต่ถ้าหากไม่มี เด็ก ๆ ก็จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
ขณะที่โรงเรียนในสหรัฐฯ เด็กๆที่อาศัยอยู่ทางตะวันตกของประเทศ จะต้องเผชิญกับกลุ่มควันพิษ เนื่องจากไฟป่า เพราะในฤดูร้อนที่อากาศแห้งแล้ง ไฟป่าก็เกิดได้ง่ายขึ้น โดยฤดูไฟป่ามักจะเริ่มขึ้นในช่วงปลายฤดูร้อนหรือต้นฤดูใบไม้ร่วง
สำหรับควันจากไฟป่าจะเต็มไปด้วยโลหะและสารเคมีหนัก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อปอดและอวัยวะอื่นๆของเด็ก เพราะเด็ก ๆ ในวัยนั้น อวัยวะอย่างปอดและสมองกำลังเติบโตและพัฒนา
ส่วนเด็กๆที่เติบโตมาในพื้นที่ที่มีปัญหามลพิษสูง ก็มักจะมีปัญหาพังผืดที่ปอดและปอดแฟบ นอกจากนี้ มลพิษเหล่านั้นก็อาจจะเข้าสู่ระบบเส้นเลือดและส่งผลต่ออวัยวะทั้งหมดด้วย
กุมารแพทย์มักบอกว่า เด็กไม่ใช่ผู้ใหญ่ตัวเล็ก เพราะว่าสรีระวิทยาของเด็กต่างจากผู้ใหญ่มาก ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้การคำนวณหรือการคาดเดาแบบผู้ใหญ่
และที่สำคัญ พวกเขาไม่มีการตัดสินใจแบบผู้ใหญ่ ดังนั้นผู้ใหญ่จึงต้องบอกว่า เมื่อไหร่ที่ร้อนเกินไปแล้ว หรือเมื่อไรที่เด็ก ๆ เริ่มแสดงสัญญาณให้เห็นถึงอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากความร้อน เพราะเด็กมักจะไม่รู้ตัว
ส่วนเหตุผลที่ทำให้เด็กโดยทั่วไปเสี่ยงต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมมากกว่าก็คือ อวัยวะของพวกเขากำลังพัฒนาและเติบโต
นอกจากปัญหาเรื่องผลกระทบที่มีต่อร่างกายแล้ว การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศยังทำให้เกิดความวิตกกังวลและความเครียดต่อเด็ก โดยเฉพาะวัยรุ่นจำนวนมากที่เครียดเพราะติดตามข่าวเกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาต้องเจอในอนาคต
ที่มา: South China Morning Post
ข่าวที่เกี่ยวข้อง