นักวิจัยใช้เวลากว่า 9 ปี ติดตามการเคลื่อนที่ของฉลามเสือ พบว่า ในยุคที่ที่อุณหภูมิน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ฉลามเสือว่ายน้ำไปยังทิศขั้วโลกมากขึ้น มิหนำซ้ำยังถูกเสี่ยงต่อการล่าเชิงพาณิชย์มากขึ้น
มหาวิทยาลัยไมอามี่เปิดเผยว่า อุณหภูมิน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลต่อถิ่นที่อยู่ของ “ฉลามเสือ” แถมมีแนวโน้มว่าพวกมันจะเคลื่อนตัวเข้าไปขั้วโลกมากขึ้น
Neil Hammerschlag นักวิจัยผู้เขียนการศึกษานี้ เปิดเผยว่า “ด้วยอุณหภูมิน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้ฉลามเสืออพยพไปทางขั้วโลกมากยิ่งขึ้น สถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่ เพราะอาจทำให้พวกมันเคลื่อนไหวไปยังนอกพื้นที่คุ้มครองทางทะเล และเสี่ยงต่อการถูกล่าเชิงพาณิชย์”
นักวิจัยรายนี้จับมือกับองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) เพื่อศึกษาการเคลื่อนที่ของฉลามเสือ ด้วยการติดแท็กไปกับฉลามเสือ เป็นระยะเวลากว่า 9 ปี จากนั้น นำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์
ผลการศึกษาเปิดเผยว่า ทุกครั้งที่อุณหภูมิน้ำเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้น 1 องศา ฉลามเสือจะอพยพไปทางขั้วโลกกว่า 400 กิโลเมตร และยังอพยพเร็วกว่าปกติถึงสองสัปดาห์
นักวิจัยอธิบายว่าฉลามเสือจากที่เคยเป็นนักล่าแห่งท้องทะเล แต่การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิน้ำอาจทำให้พวกมันกลายเป็นเหยื่อเสียเอง เพราะฉลามเสือมีแนวโน้มจะว่ายผ่านชายฝั่งบ่อยขึ้น และมีโอกาสสูงที่จะพบเข้ากับมนุษย์ ซึ่งเป็นมนุษย์ที่ล่าสัตว์น้ำ นักวิจัยย้ำ
หากใครจำกันได้สปริงเคยนำเสนอเรื่องราวของฉลามเสือที่ถูกบ่วงที่มนุษย์ทิ้งลงทะเลรัดครีบทั้ง 2 ข้างไว้จนไม่สามารถว่ายน้ำได้อย่างถนัด ซึ่งป่านนี้จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่มีใครล่วงรู้ เคสนี้ชี้ให้เห็นว่าสถานภาพของฉลามเสืออันตรายแค่ไหนเมื่อต้องว่ายมาวนอยู่บริเวณผิวน้ำมากขึ้น
ประกอบกับการศึกนี้ที่บ่งชี้ว่า ทะเลเดือดทำให้น้องฉลามเสือว่ายไปยังบริเวณน้ำเย็น และมีแนวโน้มว่าพวกมันจะแวะเวียนไปให้มนุษย์ได้ยลโฉมอยู่บ่อย ๆ ดังนั้น ไม่มีอะไรการันตีเลยว่าฉลามเสือจะไม่ถูกล่า จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
ที่มา: Earth
ข่าวที่เกี่ยวข้อง