เวียดนามอ่วม จ่อเผชิญสภาพอากาศสุดโต่งจากโลกร้อน ภัยธรรมชาติรอจ่ออีกเพียบ
เวียดนาม จ่อเผชิญปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ทั้งเอลนีโญและลานีญา ทำให้ต้องเจอกับสภาพอากาศสุดโต่งมากขึ้นในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นร้อนจัด แล้งจัด หรือฝนตกหนัก
SHORT CUT
- ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา จะทำให้เวียดนามเจอกับสภาพอากาศสุดโต่งมากขึ้นในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นร้อนจัด แล้งจัด หรือฝนตกหนัก
- เข้าสู่เดือนพฤษภาคม มีรายงานเกิดพายุลูกเห็บ 72 ครั้งทั่วประเทศ โดยที่จังหวัดเงียอาน เกิดพายุลูกเห็บถึง 11 ครั้ง มากที่สุดในประเทศ
- ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ จะทำให้ฝนตกหนักเกิดบ่อยขึ้น นำไปสู่ความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่มในพื้นที่เขตภูเขา
เวียดนาม จ่อเผชิญปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ทั้งเอลนีโญและลานีญา ทำให้ต้องเจอกับสภาพอากาศสุดโต่งมากขึ้นในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นร้อนจัด แล้งจัด หรือฝนตกหนัก
ปี 2024 เป็นอีกหนึ่งปีที่น่าเป็นกังวลสำหรับเวียดนาม เพราะภัยธรรมชาติกำลังรออยู่ โดยหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาของเวียดนามคาดการณ์ว่า ด้วยปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญา จะทำให้เวียดนามเจอกับสภาพอากาศสุดโต่งมากขึ้นในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นร้อนจัด แล้งจัด หรือฝนตกหนัก
รองผู้อำนวยการของสำนักงานพยากรณ์อากาศของเวียดนาม คาดการณ์ว่า เวียดนามกำลังจะเจอกับสภาพอากาศที่สุดโต่งมากกว่าเดิมในปี 2024 โดยเอลนีโญที่กำลังอ่อนกำลังลง และคาดว่ากำลังจะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ลานีญาในช่วงปลายปี 2024 นี้ จะนำไปสู่การเกิดรูปแบบสภาพอากาศที่สุดโต่งในเวียดนาม
ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เวียดนามพบเห็นค่าเฉลี่ยอุณหภูมิที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วประเทศราว 0.5-1.5 องศาเซลเซียส โดยในระหว่างเดือนเมษายน อุณหภูมิสูงสุดร้อนกว่าปกติถึง 3.1-3.6 องศาเซลเซียส ในทางตอนเหนือและตอนกลางค่อนข้างไปทางเหนือของประเทศ
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ข้อมูลจากสถานีสังเกตการณ์ 110 แห่ง จากทั้งหมด 186 แห่งทั่วประเทศ พบว่าอุณหภูมิร้อนสุดเป็นประวัติการณ์ โดยที่เมือง Đông Hà จังหวัดกว่างถิ ร้อนสุดที่ 44 องศาเซลเซียส ซึ่งร้อนที่สุดนับตั้งแต่ปี 1976
และเมื่อเข้าสู่เดือนพฤษภาคม มีรายงานเกิดพายุลูกเห็บ 72 ครั้งทั่วประเทศ โดยที่จังหวัดเงียอาน เกิดพายุลูกเห็บถึง 11 ครั้ง มากที่สุดในประเทศ
แต่ขณะเดียวกัน ปริมาณน้ำที่ไหลผ่านแม่น้ำและอ่างเก็บน้ำต่างๆ ทางตอนเหนือของประเทศ กลับมีระดับน้ำต่ำกว่าปกติราว 30-60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสถานการณ์การรุกล้ำของน้ำเค็มเกิดขึ้นเร็วกว่าปกติ และรุนแรงขึ้นในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงระหว่างช่วงฤดูแล้ง 2023-2024 สาเหตุเกิดจากน้ำจืดแห้งแล้งในหลายจังหวัดริมชายฝั่งทะเล
และเพื่อเตรียมการรับมือกับเหตุการณ์ทางสภาพอากาศที่สุดโต่งซึ่งมีความเชื่อมโยงกับปรากฏการณ์เอลนีโญ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งหน่วยงานอุตุนิยมวิทยาเฝ้าสังเกตการณ์สภาพอากาศและแหล่งน้ำอย่างใกล้ชิด
ส่วนพยากรณ์อากาศล่วงหน้า คาดการณ์ว่า ในปลายเดือนพฤษภาคม เวียดนามก็ยังจะเผชิญกับคลื่นความร้อนโจมตีทางตอนเหนือและตอนกลางของประเทศ
ขณะที่หลังจากเดือนมิถุนายนจนถึงปลายปี คาดการณ์ว่า คลื่นความร้อนจะรุนแรงขึ้น และแพร่ขยายไปทั่วทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะร้อนรุนแรงมากในเดือนกรกฎาคม ก่อนจะทุเลาลงในปลายเดือนสิงหาคมทางตอนเหนือ ส่วนทางตอนใต้ลงไปสถานการณ์ร้อนจะเริ่มดีขึ้นในเดือนกันยายน
ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งที่ยาวนาน คาดว่าจะมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในกลุ่มจังหวัดทางตอนกลางของประเทศ นับจากเดือนพฤษภาคมไปจนถึงสิงหาคม
แต่พอถึงระหว่างเดือนกันยายน-พฤศจิกายน เวียดนามอาจจะต้องเผชิญกับพายุโซนร้อนราว 11-13 ลูก เหนือทะเลตะวันออก และฝนจะเริ่มตกหนักในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน และทางตอนกลางระหว่างเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน โดยปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ จะทำให้ฝนตกหนักเกิดบ่อยขึ้น นำไปสู่ความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่มในพื้นที่เขตภูเขา
และเมื่อปรากฏการณ์ลานีญามาถึง ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดฝนตกหนักในทางตอนกลางของเวียดนามในช่วงปลายปี 2024
ที่มา : Asianews
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
