จากใจรุ่นพี่! จะลาออกจาก "งานประจำ" มาปลูกผักขาย ดูแล้งปีนี้ก่อน?

เชื่อว่าหลายคนที่ทำงานประจำมาหลายปีดีดัก จะมีความอิ่มตัวว่าอยากพอแล้ว หรือมีเงินเก็บสักก้อน อยากออกจากงานประจำมาทำอะไรเล็กๆน้อยๆเป็นของตัวเองแบบสบายใจไม่ต้องเร่งเร่งรีบ ไม่ต้องแข่งกับใคร บางเบื่อหัวหน้า เบื่อเพื่อนร่วมงาน เบื่อรถติด เบื่อสังคมแออัด เบื่อค่าครองชีพที่สูงขึ้น เบื่อๆๆๆๆ เบื่อไปหมด ซึ่งมีคนจำนวนไม่น้อยที่คิดแบบนี้ แต่..สำหรับคนที่ยังมีไฟแรงอยู่ก็จงทำต่อไป

สำหรับคนต่างจังหวัดที่เข้ามาทำงานในเมืองหลวง แล้วหมดไฟจากการทำงานประจำ หรืออิ่มตัวแล้ว เชื่อว่ามีอีกหนึ่งโมเดลที่หลายคนพูดถึงมากในโลกออนไลน์ และในชีวิตจริง นั่นก็คือ อยากลาออกจากงานประจำ ออกมาปลูกผักขาย อยากลาออกจากงานประจำมาทำเกษตร แต่… มีหลายคนที่ทำแบบนั้นแล้วประสบความสำเร็จแล้วก็มีมากมายให้เห็น

แต่..ก็มีหลายคนที่ออกมาแล้วไม่ประสบความสำเร็จก็มีมากมาย เนื่องจากทำการบ้านมาไม่ดีพอ ทั้งความรู้เรื่องการเกษตร และเรื่องการตลาด รวมถึงต้องมาเผชิญกับภัยแล้ง น้ำแล้ง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ควบคุมยากมากๆ โดยเฉพาะปี2567 ประเทศไทยเจอภัยแล้ง เอลนีโญ ขาดแคลนน้ำ หลายพื้นที่อากาศร้อนจัดทำเอาผักล้มตายกันจำนวนมาก ทำให้ผักราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด ผลสำรวจศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ราคาผักในช่วงหน้าร้อนปี67 เทียบกับปี 66 ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 40% โดยราคาผักเฉลี่ย 10 ชนิด คือ ผักชี ต้นหอม ขึ้นฉ่าย แตงกวา ถั่วฝักยาว มะระจีน มะนาว ข้าวโพดฝักอ่อน คะน้า ขิงอ่อน เฉลี่ยรายเดือนอยู่ที่ 78 บาท/กก.จากปี 66 ที่ 55 บาท/กก.

แม้ว่าจะมีข่าวมาว่า ให้ไทย เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำเปลี่ยนจากภาวะเอลนีโญ ที่จะสิ้นสุด พ.ค.นี้ และให้เตรียมเข้าสู่ ”ลานีญา” ก.ย. 67 นี้ จับตาฝนทิ้งช่วงระหว่างรอยต่อ “ทีมกรุ๊ป” แนะปีนี้เตรียมพร้อมบริหารทั้งฝนทิ้งช่วงและฝนมากปลายฤดู คาดมีโอกาสเกิดลานีญา 60% นอกจากนี้ยังมีคาดการณ์อีกว่า ถ้าเอลนีโญปรับระดับเพิ่มขึ้นในครึ่งหลังของปี 2567 อาจยืดเยื้อไปถึงปี 2568

นอกจากนี้ยังมีคำเตือนจากนักวิชาการ ว่าประเทศไทยเตรียมรับศึกหนัก “วิกฤติภัยแล้งรุนแรงยาวนาน” นับแต่ปรากฏการณ์ลานีญาอ่อนกำลังลงเข้าสู่เส้นศูนย์สูตร แล้วจะพลิกกลับมาเป็นปรากฏการณ์เอลนีโญอย่างเต็มตัวปลายปี 2566–2570 ปริมาณฝนจะต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติ 20% กระทบต่อพื้นที่นอกเขตชลประทานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จากข้อมูลดังกล่าว คนที่จะทำการเกษตรก็จะไม่ได้ทำง่ายเสมอไปเสียแล้วจากปัญหาภัยแล้ง สอดคล้องกับติ๊กต๊อกเกอร์ด้านการเกษตรชื่อดัง ที่ลาออกจากงานประจำมาปลูกผักขาย ในพื้นที่ภาคอีสาน คุณบุ๋ม “มยุรี บุญศรี”ช่อง bumbim9105 ลงคลิปบอกเล่าเรื่องราว ว่าจะลาออกจากงานประจำ แล้วมาทำการเกษตรที่บ้านนอก ลองดูหน้าแล้งปีนี้ให้ดีก่อน เพราะสวนของเธอจากเดิมที่ต้องออกจำหน่ายผักทุกวัน แต่ปัจจุบันอากาศร้อนมากทำให้สวนของเธอไม่มีผลผลิตออกจำหน่าย

เธอบอกเล่าประสบการณณ์ต่อไปว่า ในวันที่เราไม่มีรายได้ แต่รายจ่ายของเรายังมีทุกวันตั้งแต่ที่เราตื่นมาก็มีรายจ่าย พร้อมมีความกังวลว่า อากาศจะร้อนขึ้น เดือดขึ้นในทุกๆปี เกษตรกรจะต้องมีการวางแผนอย่างไรบ้าง ทั้งรายได้ เช่นการออมเงินเก็บช่วงขายผักช่วงฤดูหนาวไว้ให้มากที่สึด เพราะหน้าแล้งอาจขายผักไม่ได้เลย

พร้อมกันนี้ได้มีการแนะนำว่า ควรมีรายได้เสริมจากหลากหลายช่องทาง และแนะนำเคล็ดลับ ว่าคนที่จะลาออกมาทำสวน อันดับแรกให้ดูเรื่องแหล่งน้ำก่อน ดูว่าเราใช้น้ำอะไร และน้ำที่เราใช้จะเพียงพอทั้งปีหรือไม่? เธอแชร์ประสบการณ์น้ำในสระของเธอเริ่มแห้ง และน้ำบาดาลก็ไหลช้าลง ในขณะที่สวนเพื่อนบ้านที่ใช้น้ำบาดาลบางสวนน้ำเริ่มหมดแล้วก็มี

“ทั้งหมดคือความเสี่ยงที่คนจะลาออกจากงานประจำมาทำเกษตรต้องวางแผน ปัญหาเหล่านี้ไว้ด้วย มิฉะนั้นไม่รอด ถ้าพูดแบบโลกไม่สวยเลย แล้งนี้ไม่รอด และมันจะไม่มีแค่แล้งนี้ด้วย ปีหน้า ปีถัดๆไป จะต้องวางแผนมากขึ้น มีอาชีพหลายๆอาชีพอยู่ในมือ มีรายรับหลายทางเก็บออมใช้ในวันที่เราไม่มีผลผลิต”  มยุรี บุญศรี กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ธรรศ ทังสมบัติ แนะ ฟื้นฟูสภาพดิน สู้วิกฤตอาหาร-พืชผลขาดแคลน ในยุคภัยแล้ง

• โลกร้อน ภัยแล้งพ่นพิษ! ผู้ปลูก "กล้วยหอม"ระทึก ผลผลิตลด คุณภาพต่ำ ดันราคาสูง

• โลกร้อน ภัยแล้งพ่นพิษหนัก! ทำ "ผักสวนครัว" ราคาพุ่ง ผักชีนำโด่งเกือบ 300 ก.ก.