SHORT CUT
บึงละหาน จ.ชัยภูมิ พบปลาลอยตายเกลื่อนบึงนับแสน เก็บซากปลาได้มากกว่า 20 ตัน หวั่นกระทบระบบน้ำประปา ชาวบ้านชี้ ไม่เคยเห็นปรากฎการณ์นี้มาก่อนที่นี่ คาดเป็นเพราะอากาศร้อนจัด
ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2567 จ.ชัยภูมิ พบปลาลอยตายเกลื่อนบึงละหานบนพื้นที่กว่า 1.8 หมื่นไร่ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชาวบ้านเร่งช่วยกันตักปลาใกล้เน่าขึ้นจากบึงได้มากกว่า 24 ตัน ก่อนจะเน่าและส่งกลิ่นเหม็นรุนแรง หลังจากนั้นจึงนำขึ้นรถบรรทุกขนาดใหญ่เพื่อแจกจ่ายให้กับเกษตรกรนำไปหมักทำน้ำชีวภาพ คาดว่าใช้เวลา 1 อาทิตย์จึงจะเก็บซากปลาทั้งหมดได้
เบื้องต้น ชาวบ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เกิดจากภาวะอากาศร้อนแล้งหนัก อุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส แต่จากนั้นไม่นานก็เกิดพายุลูกเห็บฤดูร้อนพัดถล่มหนักรุนแรงกระทันหัน ทำให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่ในบึงละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดและแหล่งชุ่มน้ำที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดอีกกด้วย
คลื่นลมที่พัดถล่มทำให้น้ำในบึงเกิดปั่นป่วนและขุ่นมัว จนทำให้ปลาเล็กใหญ่จำพวกปลาขาวสร้อย ปลาซิว ปลาตะเพียน ปลานิล ปลาช่อน กระโฮก และปลาบึกขนาดใหญ่ ขาดอากาศหายใจ ปลาจึงพากันลอยคอเหนือผิวน้ำและขาดใจตาย
อย่างไรก็ตาม ปรากฎการณ์ปลาตายจ.ชัยภูมิ ชาวบ้านและชาวประมงพื้นบ้านที่อาสัยอยู่รอบบึงละหายต่างพากันตกใจ และเผยว่า เป็นภัยธรรมชาติที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ตั้งแต่เกิดจากท้องพ่อท้องแม่ ซึ่งมีตั้งแต่ปลาตัวเล็กไปจนถึงปลาตัวโต ลมแรงได้พัดซากปลามาติดกับชายฝั่งยาวกว่า 6 กิโลเมตร
นอกจากนี้ ปลาที่ตายและวัชพืชที่เน่า เริ่มส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ จึงต้องรีบเก็บขึ้นมาก่อนจะส่งปลกระทบต่อระบบน้ำประปามากไปกว่านี้ เพราะบึงละหานเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ ที่ใช้สำหรับผลิตน้ำประปาให้กับชาวบ้านใน 2 อำเภอ คือ อ.บ้านเขว้าและ อ.จัตุรัส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง