ไม่นานมานี้ มีการรายงานฟ้าผ่าว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ในโลกแค่ไม่กี่ราย แต่ปล่อยก๊าซคาร์บอนรวมกันกว่า 80% ของทั้งโลก และล่าสุด UN ก็ออกมาเตือนว่า มนุษย์เหลือเวลาแค่ 2 ปี เท่านั้น ที่จะแก้ไขเรื่องนี้
เลขาธิการหน่วยงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของสหประชาชาติออกโรงเตือนว่า มนุษย์เหลือเวลาแค่ 2 ปีเท่านั้นในการช่วยโลกจากปัญหาโลกร้อน ขณะที่ประเทศกลุ่มจี 20 ที่ร่ำรวย ปล่อยก๊าซเรือนกระจกคิดเป็นถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของโลกใบนี้
ไซมอน สตีล เลขาธิการกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ เตือนเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมาว่า เราเหลือเวลาอีกเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้นในการช่วยโลก จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอันเลวร้าย
โดยบรรดานักวิทยาศาสตร์ระบุว่า เราจำเป็นต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ทำลายสภาพอากาศลงให้ได้ครึ่งหนึ่งภายในปี 2030 เพื่อยับยั้งไม่ให้อุณหภูมิสูงเกิน 1.5องศาเซลเซียส ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาสภาพอากาศสุดโต่งและร้อนจัด
เมื่อปีที่แล้ว การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเกิดจากการใช้พลังงาน ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ไซมอนยังบอกอีกด้วยว่า ในช่วงสองปีถัดจากนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญในการช่วยโลก เรายังคงมีโอกาสที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่เราจำเป็นต้องมีแผนการที่เข้มแข็งกว่านี้
โดยกลุ่มจี 20 เป็นกลุ่มประเทศที่มีอำนาจทางเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกัน พวกเขาก็ปล่อยก๊าซเรือนกระจกคิดเป็นถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของโลกใบนี้ นับเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องแก้ปัญหานี้
สำหรับภารกิจสำคัญของสหประชาชาติในปีนี้ คือการเจรจาด้านสภาพอากาศอากาศที่จะเกิดขึ้นในอาเซอร์ไบจาน เพื่อให้แต่ละประเทศเห็นพ้องต้องกันในเป้าหมายใหม่ ในการให้เงินสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนา
ซึ่งกำลังประสบปัญหาการลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านจากการใช้พลังงานฟอสซิลมาสู่พลังงานสะอาด และต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
สำหรับการประชุมว่าด้วยสภาพอากาศของสหประชาชาติขยายใหญ่ขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อย่างเมื่อปีที่แล้ว มีคนเข้าร่วมการประชุม COP28 ที่จัดขึ้นที่ดูไบเกือบ84,000 คน
แต่มันก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนักรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีนักล็อบบี้จากบริษัทด้านพลังงานฟอสซิลลงชื่อเข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน
ไซมอนชี้ว่า เขาหวังว่าการประชุม COP ในอนาคตจะมีขนาดการจัดงานที่เล็กลง แต่มีผลลัพธ์การเจรจาที่แข็งแรงขึ้น
ที่มา: Reuters
ข่าวที่เกี่ยวข้อง