เพนกวินมีเซ็กส์ ขยันเปลี่ยนคู่ ไม่หาอาหาร เพราะโลกร้อนทำปลาย้ายมาในถิ่น

เพนกวินในประเทศออสเตรเลียเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีมากกว่า 40,000 ตัว และทั้งหมดนี้เป็นพวงมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอุณหภูมิผิวน้ำทะเลเพิ่มขึ้น ทำให้จำนวนปลาว่ายในน่านน้ำชายฝั่งโดยรอบเพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่าแหล่งอาหารของเพนกวินก็เพิ่มขึ้น

Climate Change ส่งผลดีทำให้เพนกวินผสมพันธุ์กันมากขึ้น

นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลในอุทยานธรรมชาติเกาะฟิลลิป และรองศาสตราจารย์ อังเดร เชียราเดีย จาก Monash University กล่าวว่า อาหารที่หลั่งไหลเข้ามาทำให้นกเพนกวินตัวน้อยมีเวลาและพลังงานมากขึ้นในการผสมพันธุ์ ซึ่งเพนกวินเหล่านี้ผสมพันธุ์เร็วกว่าเมื่อก่อน 1 เดือนครึ่ง 

เป็นที่น่าสังเกตว่าเพนกวินมีความสุขกับการผสมพันธุ์และมีเซ็กส์แบบเปลี่ยนคู่ เมื่อความสัมพันธ์ไม่ได้ผล มันก็จะออกไปหาคู่ใหม่ ซึ่งสามารถมีคู่ได้ 4-5 ตัวในคืนเดียว

โลกร้อนกระทบระบบนิเวศ

แม้ว่าอุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลดีต่อเพนกวินบนเกาะฟิลลิป แต่อาจไม่ใช่กับสายพันธุ์อื่นๆ นักวิจัยคาดการณ์ว่าร้อยละ 90 ของนกเพนกวินจักรพรรดิ์อาจสูญพันธุ์ภายในปี 2100 หากอุณหภูมิโลกยังคงเพิ่มสูงขึ้นในอัตราปัจจุบัน

ในปี 2022 การสำรวจแอนตาร์กติกาของอังกฤษพบว่าลูกนกเพนกวินจักรพรรดิ์มากถึง 10,000 ตัวจมน้ำตายเนื่องจากน้ำแข็งในทะเลแตกตัวในช่วงต้นฤดูกาลและแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นักวิจัยเตือนว่าการมองภาพรวมเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากภาวะน้ำอุ่นที่นำไปสู่การไหลบ่าของปลานอกชายฝั่งทางใต้ของออสเตรเลีย

ศาสตราจารย์เบรนแดน วินเทิล ผู้อำนวยการสถาบันความหลากหลายทางชีวภาพเมลเบิร์น และหัวหน้าสภาความหลากหลายทางชีวภาพ กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงในระบบนิเวศส่วนหนึ่งมีผลกระทบต่อที่อื่นๆ “ระบบนิเวศคือการเชื่อมโยงขนาดใหญ่ เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่แห่งปฏิสัมพันธ์ระหว่างสัตว์และพืช”

“หากคุณเห็นการเปลี่ยนแปลงในสัตว์หรือพืชชนิดใดชนิดหนึ่ง คุณสามารถแน่ใจได้เลยว่าจะต้องส่งผลกระทบต่อสายพันธุ์อื่นๆ หลายร้อยชนิดที่เรายังไม่ได้ศึกษาอย่างใกล้ชิด”

การเพิ่มจำนวนเพนกวินอาจเป็นสัญญาณเตือนของระบบนิเวศ

แม้ว่าการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพนกวินบนเกาะฟิลลิปอาจดูเหมือนเป็นสิ่งที่ดีเพียงผิวเผิน ศาสตราจารย์วินเทิลกล่าวว่า นี่อาจเป็นสัญญาณของช่วงเวลาที่ยากลำบากข้างหน้า “ด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง คุณจะได้รับช่วงเวลาดีๆ ที่สูงขึ้น และอาจนำไปสู่การล่มสลายหรือนำไปสู่การสูญพันธุ์ของสัตว์บางสายพันธุ์ได้” 

เพนกวินเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบของสายพันธุ์ที่ไวต่อการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศสูง สิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับสายพันธุ์ต่างๆ เช่น เพนกวินที่ต้องพึ่งพาการประมง คือการที่เรามีพื้นที่คุ้มครองทางทะเลที่แข็งแกร่งจริงๆ ซึ่งปกป้องระบบนิเวศชายฝั่งและทางทะเล และปล่อยให้ปริมาณปลามีเสถียรภาพมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ศาสตราจารย์วินเทิล กล่าวว่า “เราทุกคนต้องมีบทบาทในการจำกัดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและรักษาสายพันธุ์สัตว์ชนิดนี้ไว้ได้”

 

ที่มา : ABC

 

เนื้อหาที่น่าสนใจ :

• โลกร้อนทำหญ้าทะเลลดลงอย่างน่าตกใจ อาจส่งผลพะยูนลดจำนวนตามไปด้วย

• ฉลามวาฬ ว่ายน้ำใกล้หาดหมู่เกาะเสม็ด คาดหากินเพลินและไม่พบอาการบาดเจ็บใดๆ

• อัปเดตสถานการณ์สัตว์ทะเลหายาก น้องๆ เป็นอย่างไร? เพิ่มหรือลดจำนวนแค่ไหน