ไมโครพลาสติก (Microplastics) เจอทุกที่ ทวีปแอนตาร์กติกาก็ไม่รอด ล่าสุดนักวิจัยพบไมโครพลาสติกในมูลเพนกวินและน้ำบริเวณรอบแผ่นน้ำแข็ง
ตอนนี้ไมโครพลาสติกกำลังเป็นที่พูดถึงและผลกระทบของมันก็ส่งผลเป็นวงกว้าง ล่าสุดนักวิจัยพบไมโครพลาสติกในทวีปแอนตาร์กติกาแล้วซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่มีรายงานการพบไมโครพลาสติกที่ทวีปนี้มาก่อน สร้างความกังวลให้กับนักวิจัยเป็นอย่างยิ่ง
ปริมาณไมโครพลาสติก (Microplastics) ในแอนตาร์กติกกำลังได้รับการวิเคราะห์โดยใช้วิทยาศาสตร์นิวเคลียร์เพื่อศึกษาน้ำ ตะกอน และแม้แต่มูลนกเพนกวินของภูมิภาคนี้ การตรวจสอบครั้งนี้ทำโดยสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศของสหประชาชาติและสถาบันแอนตาร์กติกอาร์เจนตินา (IAA) เป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่ม NUTEC Plastics Initiative ของ IAEA ซึ่งพิจารณามลพิษจากไมโครพลาสติกในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
การหาไมโครพลาสติกโดยใช้นิวเคลียร์ทำให้สามารถระบุปริมาณมลพิษที่พบในก้นทะเลและแหล่งที่มาของได้อย่างแม่นยำ นักวิทยาศาสตร์ได้นำตัวอย่างจากขี้นกเพนกวิน ตะกอนจากก้นทะเล และจากน้ำรอบๆ แผ่นน้ำแข็ง เพื่อมาวิเคราะห์ที่ฐาน Carlini ของอาร์เจนตินาในแอนตาร์กติก ส่วนอื่นๆ จะถูกส่งไปยังศูนย์วิจัย IAEA ในโมนาโก
Rafael Grossi ผู้อำนวยการทั่วไปของศูนย์วิจัย IAEA กล่าวว่า “สุขภาพของทวีปแอนตาร์กติกามีความสำคัญต่อสุขภาพของโลก และไมโครพลาสติกกำลังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสถานที่แห่งนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น"
ไมโครพลาสติก เป็นพลาสติกที่มีอนุภาคขนาดเล็กกว่า 5 มิลลิเมตร สามารถปะปนไปกับสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตได้ง่าย ซึ่ง ลูคัส รูแบร์โต นักวิจัยจาก IAA กล่าวว่า “มนุษย์เรามักให้ความสนใจกับไมโครพลาสติกน้อยที่สุดทั้งที่ตอนนี้มันเป็นปัญหาที่กระทบกับเราไปแล้ว นอกจากนี้ไมโครพลาสติกยังแพร่กระจายได้ง่าย อาจถูกกระแสน้ำพัดพามาจากส่วนอื่นๆ ของโลก หรืออาจจะกำเนิดขึ้นทวีปแอนตาร์กติกาก็ได้”
ด้วยความที่มีอนุภาคขนาดเล็ก ทำให้สามารถปนเปื้อนอยู่ในธรรมชาติ สิ่งมีชีวิต รวมถึงมนุษย์ได้ และไมโครพลาสติกยังเป็นปัญหาระดับโลกอีกด้วยเนื่องจากโลกเรามีการใช้พลาสติกเป็นจำนวนมาก เราอาจกินไมโครพลาสติกเข้าไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้เกิดการสะสมภายในและอาจนำไปสู่โรคต่างๆ ได้มีการคาดการณ์ว่านับตั้งแต่พลาสติกออกสู่ตลาดมีพลาสติกจำนวน 7 พันล้านตันถูกทิ้งสู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในสภาพแวดล้อมทางทะเล