น้ำแข็งละลาย เกือบทำเพนกวินตายหมู่! NASA จับภาพ ภูเขาน้่ำแข็งยาว 72 กิโลเมตร ลอยไปกระแทกกับที่หลบภัยของเพนกวินในแอนตาร์กติกา แต่โชคดีที่ไม่รุนแรงมากนัก
เพนกวินเกือบเสี่ยงสูญพันธุ์ไปหวุดหวิด! NASA รายงานว่า ภาพเคลื่อนไหวจากดาวเทียม พบภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ประมาณครึ่งหนึ่งของเกาะโรดไอซ์แลนด์ (ประมาณ 45 ไมล์ หรือ 72 กิโลเมตร) พึ่งพังลงมา แล่นเข้าใกล้กับเขตหลบภัยของเพนกวินในทวีปแอนตาร์กติกา ก็โล่งใจไป เพราะสร้างความเสียหายแค่เล็กน้อยเท่านั้น
ภูเขาน้ำแข็งพุ่งชนที่หลบภันเพนกวินนั้นมีชื่อว่า D-30A มีความยาวประมาณ 72 กิโลเมตร กว้าง 20 กิโลเมตร เป็นชิ้นส่วนน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดที่เหลืออยู่ของก้อนน้ำแข็งใหญ่ D-30 ซึ่งถือกำเนิดขึ้นในเดือนมิถุนายนปี 2021 เมื่อภูเขาตัวแม่ที่ชื่อเบิร์ก D-28 พุ่งชนเข้ากับพื้นที่ใกล้ชั้นน้ำแข็งบอร์ชเกรวินก์ในแอนตาร์กติกาตะวันออกและแตกออกเป็น 2 ส่วน ตั้งแต่นั้นมา D-30A ก็ค่อย ๆ ลอยไปเรื่อย ๆ ตามกระแสน้ำของแนวชายฝั่งแอนตาร์กติก
วันที่ 6 กันยายน 2023 D-30A เปลี่ยนเส้นทางกะทันหันและมุ่งตรงไปยังเกาะคลาเรนซ์ (Clarence) ซึ่งอยู่ทางตะวันออกสุดของหมู่เกาะ South Shetland ซึ่งมีพื้นที่น้อยกว่า D-30A ประมาณ 10 เท่า และได้พุ่งกระแทกเข้ากับชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะ ก่อนที่จะหมุนเบี่ยงไปทางตะวันออกของเกาะในเวลาต่อมา และมุ่งหน้าออกสู่ทะเลหลายวันต่อมา
เกาะคลาเรนซ์เป็นหนึ่งในแหล่งเพาะพันธุ์ของเพนกวินที่สำคัญอย่างเพนกวินชินสแตรป (chinstrap penguin) ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Pygoscelis antarcticus โดยทุกฤดูหนาว จะมีคู่เพนกวินผสมพันธุ์ประมาณ 100,000 คู่มาเยือนเกาะแห่งนี้ เพื่อวางและฟักไข่ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่นักวิจัยใจหายและกังวลว่าภูเขาน้ำแข็งอาจส่งผลกระทบต่อประชากรเพนกวินกลุ่มนี้ แต่พอรู้ว่าไม่สร้างความเสียหายมากก็โล่งใจไปได้ระดับหนึ่ง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ธารน้ำแข็งสวิสละลายไปแล้ว 10% ภายใน 2 ปี ผลพวงจากภาวะโลกร้อน
โลมาแอมะซอนตายนับร้อย ผลพวงภัยแล้งเอลนีโญ ทำทะเลสาบร้อน 39 องศาฯ
หน้าที่ของภูเขาน้ำแข็ง คือสามารถป้องกันไม่ให้สัตว์ทะเลมุ่งหน้าออกสู่ทะเลอื่น ๆ เพื่อหาอาหาร และยังสามารถเปลี่ยนอุณหภูมิและความเค็มของน้ำโดยรอบได้ ดังนั้น การที่น้ำแข็งละลายและแตกลงมาจากภูเขาอาจเป็นการทำลายระบบนิเวศของทะเล และสร้างความไม่สมดุลให้กับเส้นใยอาหาร
ในปัจจุบัน ดูเหมือนว่า D-30A กำลังมุ่งหน้าไปยัง Drake Passage หรือที่ชื่อว่า “ตรอกน้ำแข็ง” ซึ่งเปรียบเสมือนตรอกที่กรองเศษภูเขาน้ำแข็งให้มาติดอยู่ในกระแสน้ำในมหาสมุทรและลากน้ำแข็งไปยังผืนน้ำที่อุ่นขึ้นจนละลายหายไปในที่สุด
อย่างไรก็ตาม ภูเขาน้ำแข็งที่แตกและร่วงลงสู่มหาสมุทร ไม่ได้ละลายและเพิ่มระดับน้ำทะเลให้สูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีความรุนแรงมากพอที่จะไหลไปชนกับถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ในแถบขั้วโลกได้ ดังนั้น เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น น้ำแข็งเหล่านี้จะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และทำให้ระบบนิเวศของน้ำเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เราจะต้องหยุดยั้งอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นเหล่านี้ให้ได้ก่อนที่จะสายไป
ที่มาข้อมูล
ข่าวที่เกี่ยวข้อง